ซินหัว - ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ของจีน เตรียมเดินทางเยือนกัมพูชาในสัปดาห์หน้า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ รวมทั้งจีนและอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นายเขียว กันหะฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงข่าวสารและโฆษกรัฐบาลกัมพูชา ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อจีน ว่า การเดินทางเยือนกัมพูชาของประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ
ข่าวประชาสัมพันธ์ของกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ระบุว่า ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา มีกำหนดเดินทางเยือนกัมพูชานาน 4 วัน ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.ถึงวันที่ 2 เม.ย. ตามคำเชิญของพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับการเดินทางเยือนกัมพูชาเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดี หู จิ่นเทา การเดินทางเยือนครั้งนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจ ความเคารพและความร่วมมือระหว่างกัน” นายเขียว กันหะฤทธิ์ กล่าว และย้ำว่า จีนยังคงปฏิบัติต่อกัมพูชาอย่างเพื่อนที่เท่าเทียม โดยไม่คิดว่ากัมพูชาเป็นเพียงประเทศเล็กๆ และการเยือนครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของจีนที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน
ในด้านเศรษฐกิจ นายเขียว กันหะฤทธิ์ กล่าวว่า การเดินทางเยือนของประธานาธิบดี หู จิ่นเทา จะสนับสนุนให้นักลงทุนจากจีนและนักลงทุนต่างชาติจากประเทศต่างๆ เข้ามาลงทุนที่กัมพูชามากขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของกัมพูชา
“เราหวังว่า ในระหว่างการเยือนของประธานาธิบดี หู จิ่นเทา จะมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในหลายด้าน” นายเขียว กันหะฤทธิ์ กล่าว และระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายเขียว กันหะฤทธิ์ ยังได้เน้นย้ำถึงความร่วมมืออันดีระหว่างจีนและกัมพูชา รวมทั้งจีนและอาเซียน
ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัมพูชาและจีน ก่อตั้งขึ้นมาเป็นเวลานานมากกว่า 60 ปี ตั้งแต่ยุคสมัยของอดีตกษัตริย์นโรดมสีหนุ และอดีตนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล และความสัมพันธ์ได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
“จนกระทั่งตอนนี้ ความสัมพันธ์ของเราได้บรรลุถึงระดับของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในความร่วมมือรอบด้าน” นายเขียว กันหะฤทธิ์ ระบุ
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-จีน นายเขียว กันหะฤทธิ์ ระบุว่า ในฐานะที่กัมพูชาดำรงตำแหน่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ กัมพูชาจะทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดที่จะส่งเสริมความเข้าใจร่วมกันระหว่างอาเซียนและจีน และจะทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ยอย่างเป็นกลางในความขัดแย้งทะเลจีนใต้ เพื่อแก้ปัญหาอย่างสันติตามแถลงการณ์ว่าด้วยการประพฤติปฏิบัติของฝ่ายต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ที่รู้จักกันในชื่อย่อ DOC (Declaration on the Conduct of Parties in the South China Sea) ที่ลงนามร่วมกันระหว่างอาเซียนและจีนในกรุงพนมเปญเมื่อปี 2545
ตามที่สื่อตะวันตกรายงานว่า ความช่วยเหลือและการลงทุนเป็นจำนวนมหาศาลของจีนในประเทศนี้เป็นความพยายามที่จะเข้ามามีอำนาจในเศรษฐกิจและการเมืองของกัมพูชา โฆษกรัฐบาลกัมพูชารายนี้ กล่าวว่า จีนเป็นนักลงทุนรายใหญ่และเป็นผู้ให้สินเชื่อกู้ยืมแก่กัมพูชา แต่จีนไม่เคยมีเงื่อนไขผูกพันต่อความช่วยเหลือเหล่านั้น
“จีนลงทุนในกัมพูชาทั้งหมด 8,800 ล้านดอลลาร์ เป็นเงินทุนจำนวนมากที่สุดสำหรับกัมพูชา จากการลงทุนเหล่านี้ ทำให้กัมพูชาสามารถสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานขึ้นใหม่ ช่วยให้กัมพูชามีอิสระทางการเมือง และดำเนินบทบาทได้อย่างเหมาะสมบนเวทีโลก และการเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้” นายเขียว กันหะฤทธิ์ กล่าว พร้อมย้ำว่า กัมพูชารู้สึกชื่นชมจีนต่อนโยบายความเคารพในอธิปไตยของประเทศอื่นๆ ไม่แทรกแซงกิจการภายใน และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งนโยบายของจีนเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ช่วยให้สถานการณ์ในเอเชียมีความมั่นคง