ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นายเจียซิม ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา วัย 80 ปี ได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 3 ในการเลือกตั้งวันเสาร์ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีการก่อตั้ง “สภาสูง” แห่งนี้ขึ้นมาในปี 2542
สมาชิกวุฒิสภาที่เข้าประชุมจำนวน 60 คน ลงมติเลือกบุรุษชราเป็นเอกฉันท์ ขณะเดียวกัน ก็เลือก นายสายชุม (Say Chhum) ประธานคณะกรรมการประจำวุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้นำอาวุโสอีกคนหนึ่งของพรรครัฐบาล เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 สำนักข่าวกัมพูชาซึ่งเป็นของรัฐบาลรายงาน
พรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ได้รับเลือกจำนวน 46 ที่นั่ง จากการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในเดือน ม.ค.ปีนี้ อีก 11 ที่นั่งเป็นของพรรคสัมรังสี พรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุด
ตามรัฐธรรมนูญกัมพูชา สมาชิกวุฒิสภา หรือ “พฤฒิสภา” (Protsophea หรือ ព្រឹត្តសភា) จะมีจำนวนไม่เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา (Radhsphea หรือ រដ្ឋសភា) และมีที่มาจาก 3 ทางคือ สภาบริหารคอมมูนต่างๆ ทั่วประเทศ จะเป็นผู้เลือกเป็นส่วนใหญ่ พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งอีก 2 คน และสมาชิกรัฐสภา ซึ่งหมายถึง “ผู้แทนราษฎร” คะแนนเลือกอีก 2 คน โดยใช้สิทธิ์นี้แทนเขตเลือกตั้งของตนในจังหวัดต่างๆ
นายเจียซิม เกิดวันที่ 15 พ.ย.2475 เป็นชาว จ.สวายเรียง ที่มีชายแดนติดเวียดนาม เข้าร่วมกับเขมรแดงกลุ่มฮุนเซน-เฮงสัมริน ก่อตั้ง “ขบวนการกู้ชาติ” และ หลบหนีการปราบปรามของเขมรแดงกลุ่มโปลโป้ต เอียง สารี เคียว สมพร เข้าเวียดนาม
ผู้นำกลุ่มนี้อยู่ในอำนาจมาตั้งแต่เดือน ม.ค.2522 โดยได้รับแต่งตั้งจากเวียดนาม ซึ่งส่งทหารนับแสนคน ข้ามพรมแดนเข้าขับไล่รัฐบาลเขมรแดงกลุ่มโปลโป้ต จากกรุงพนมเปญ ทหารเวียดนามยังคงช่วยผู้นำกลุ่มนี้รักษาเก้าอี้ไว้แน่นเหนียวต่อมาอีก 10 ปี
.
.
ประธานวุฒิสภาจะรักษาการแทนประมุขแห่งรัฐ เมื่อไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม
ระหว่างเดือน เม.ย.2535 จนถึง มิ.ย.2536 นายเจียซิม ดำรงตำแหน่ง “ประธานสภาแหงรัฐ” หรือประธานาธิบดีซึ่งเป็นระบบเดียวกับเวียดนามเมื่อก่อน ก่อนที่กัมพูชาจะกลายเป็นรัฐใหม่ ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ
เจียซิม ยังรักษาการแทนสมเด็จพระนโรดมสีหนุ อดีตกษัตริย์แห่งกัมพูชาช่วงสั้นๆ ในปี 2536, 2537, 2538 และ 2547
เมื่อกษัตริย์กัมพูชาทรงสละราชสมบัติอย่างถาวร ในวันที่ 7 ต.ค.2547 เจียซิม ได้ขึ้นเป็นประมุขแห่งรัฐอีกครั้งหนึ่ง จนถึงวันที่ 14 ต.ค.ปีเดียวกัน เมื่อสมเด็จพระนโรดมสีหมุนี ทรงขึ้นครองราชย์
เจียซิม ยังทำหน้าที่รักษาการแทนประมุขแห่งรัฐอีกหลายครั้งในช่วงปีหลังนี้ ในยามที่องค์พระประมุขเสด็จเยือนต่างแดน
เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้นำอาวุโสมีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัว เคยมาตรวจรักษาในประเทศไทยหลายครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนปลายทางเป็นสิงคโปร์แทนในช่วงปีหลังๆ นี้