ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เกิดอุบัติเหตุสะเทือนขวัญในลาว ขณะเด็กๆ ก่อไฟผิงที่ลานบ้านแก้หนาว จู่ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เสียชีวิตทันที 3 ราย รวมทั้งเด็กหญิง 1 คน กับอีก 1 คน ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ยังมีอีก 4 คนบาดเจ็บสาหัส ผลการสอบสวนได้พบว่า เป็นระเบิดลูกหว่าน หรือ “บอมบี้” (Bombie) ที่ตกค้างมาตั้งแต่สมัยสงครามและซุกอยู่ใต้ดิน เมื่อได้รับความร้อนจากกองไฟจึงระเบิดขึ้น
เหตุเกิดเวลาประมาณ วันที่ 23 ม.ค.2555 ที่หมู่บ้านตาลวง เมือง (อำเภอ) นอง แขวงสะหวันนะเขต ผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายอายุ 12 ปี 1 คน อายุ 10 ปี 1 คน อายุ 9 ปี 1 คน กับเด็กหญิงวัย 3 ขวบ 1 คน ผู้ที่บาดเจ็บสาหัสเป็นหญิงวัย 28 ปี 1 คน กับเด็กชายวัย 11 และ 9 ปี หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่รายงาน
ระเบิดลูกหว่าน หรือ “ระบิดพวง” ทิ้งลงจากเครื่องบินในลังเดียวกัน และ จะกระจายออกไปครอบคลุมอาณาบริเวณกว้างขวาง ออกแบบมามุ่งทำลายเป้าหมายบุคคลรวมทั้งยานพาหนะ ระเบิดสามารถระเบิดได้ทันทีเมื่อกระทบเข้ากับเป้าหมาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่ยังไม่ระเบิดและตกค้างมาตั้งแต่ช่วงสงคราม
ในระหว่างปี 2507-2518 ซึ่งช่วงปีดังกล่าวสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดลงในลาวมากกว่า 2 ล้านตัน
เชื่อกันว่า ยังคงมีระเบิดลูกหว่านมากกว่า 800,000 ลูก กระจายกันอยู่ใน 14 แขวงของลาวเหนือจรดใต้ และ สะหวันนะเขตเป็น 1 ใน 10 แขวงที่ได้รับผลกดระทบหนักหน่วงที่สุด ทั้งนี้ยังไม่นับรวมลูกระเบิดขนาดใหญ่ที่ทิ้งลงจากเครื่องบิน กับลูกกระสุนปืนใหญ่ ปืนครก ระเบิดมือและจรวดอีกนานาชนิดที่ยังไม่ระเบิด หนังสือพิมพ์ของทางการนครเวียงจันทน์กล่าว
ระเบิดที่หลงเหลือตั้งแค่ครั้งสงครามยังคงทำลายชีวิตและทรัพย์ชาวลาวมาจนถึงบัดนี้ ทุกๆ ปียังมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตราว 300 คน คือ มีผู้ตกเหยื่อของระเบิดเกือบจะทุกวัน
หลายปีมานี้ลาวได้รีบความร่วมมือช่วยเหลือจากหลายประเทศในการเก็บกู้วัตถุระเบิดมากมายหลายชนิด ทั้งด้านทุนรอนและด้านวิชาการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งจากสหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ นอร์เว สวีเดน และ ญี่ปุ่น
2
3
4
5
6