xs
xsm
sm
md
lg

พม่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวชมกรุงเนปีดอได้ในปี 2555

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033> ขบวนรถมุ่งหน้าไปยังหมู่อาคารรัฐสภา ภายในบริเวณส่วนราชการของเมืองหลวงแห่งใหม่ของประเทศ พม่าเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวชมกรุงเนปีดอได้ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป ในโอกาสที่พม่าจะเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และการประชุมอาเซียน. -- AFP PHOTO/POOL/Saul Loeb. </font></b>

ซินหัว - พม่าจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมกรุงเนปีดอ เมืองหลวงแห่งใหม่ของประเทศได้ในปี 2555 หนังสือพิมพ์เมียนมาร์โพสต์ รายงานอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวพม่า

ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั่วไปยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ของกรุงเนปีดอ ยกเว้นผู้ที่มีวีซ่าธุรกิจที่เดินทางมายังกรุงเนปีดอ เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและการลงทุน จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาได้

ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในท้องถิ่นได้เสนอรัฐบาลออกวีซ่าท่องเที่ยวให้กับชาวต่างชาติในโอกาสที่พม่าเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2013 และการประชุมสุดยอดอาเซียน 2014 รวมทั้งการประชุมอื่นๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคต

สื่อท้องถิ่นของพม่า รายงานว่า ในบริเวณที่พักในกรุงเนปีดอ มีโรงแรมทั้งหมด 24 แห่ง และมีห้องพักรวมทั้งหมด 1,600 ห้อง และว่า เนื่องจากกรุงเนปีดอตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางยุทธศาสตร์ของประเทศ ที่การเดินทางไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของประเทศ ทำได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้กรุงเนปีดอกลายเป็นปลายทางท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ

กรุงเนปีดอ อยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้ง ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ทางใต้ ราว 390 กม.และอยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ เมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม ที่อยู่ทางเหนือ ราว 300 กม.

หลังจากทางการพม่ามีแนวคิดย้ายเมืองหลวงจากกรุงย่างกุ้ง ในปลายปี 2548 กรุงเนปีดอ ที่สร้างขึ้นใหม่ ประกอบด้วย เมืองทั้งหมด 8 เมือง รวมทั้งเมืองเปงมานา และมีพื้นที่รวมทั้งหมด 7,054 ตาราง กม.มากกว่าพื้นที่ของกรุงย่างกุ้งถึง 9 เท่า แต่มีประชากรอยู่เพียง 900,000 คน และในเดือน ธ.ค.2553 ทางการพม่าได้เปิดทางหลวงสายเหนือ-ใต้ จากกรุงย่างกุ้ง มายังเนปีดอ และสิ้นสุดที่มัณฑะเลย์

และในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) ได้มีพิธีเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ในกรุงเนปีดอ ในโอกาสที่พม่าเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำกลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ครั้งที่ 4 และสนามบินแห่งใหม่นี้กลายเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 ของประเทศ ถัดจากสนามบินในกรุงย่างกุ้ง และเมืองมัณฑะเลย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเดินทางจากทั่วโลกที่คาดว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในปีต่อๆ ไป
กำลังโหลดความคิดเห็น