xs
xsm
sm
md
lg

มิโตมิโตมิโช อ๋าวหย่ายซีทรู วัยใสอวดสวย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>เมื่อก่อนนี้เด็กสาว ม.ปลาย ยังรู้จักเหนียมอาย พวกเธอจะซุกอ๋าวใหญ่ประยุกต์ที่มองทะลุโปร่งไว้ในกระเป๋า เอาไว้สวมอวดสวยตอนหลังเลิกเรียน แต่ปรากฏการณ์ใหม่ในวันนี้ก็คือ ชุดเรียนกับชุดเที่ยวเป็นบางชุดเฉียบมองทะลุชุดเดียวกัน สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียนามกล่าว.-- ภาพ: Báo Đất Việt.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เป็นเรื่องที่พูดกันมานานและรณรงค์ห้ามปรามกันมาตลอด แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยั่ว ในวันนี้นักเรียนสาวที่แต่งกายด้วยชุดประจำชาติตัดเย็บบางเฉียบโชว์ส่วนโค้งส่วนเว้าแห่งวัยสาวยิ่งมีจำนวนมากขึ้น กลายเป็นเรื่องทรมานใจไม่สิ้นสุดของพ่อแม่ผู้ปกครอง และทรมานตาสำหรับผู้พบเห็น

ต่างไปจากกิโมโนของสาวญี่ปุ่น หรือฮั่นบ๊อกของสาวๆ ชาวเกาหลี ที่ค่อนข้างจะเคร่งครัดเกี่ยวกับผืนผ้าที่ใช้ตัดเย็บและมีรูปแบบที่รัดกุมมากกว่า แต่อ๋าวหย่ายของสาวเวียดนามมีความยืดหยุ่น ซึ่งเปิดช่องให้สาวๆ ที่ชอบอวดสวยเลือกผ้าเนื้อบางตัดเย็บชุดวัฒนธรรมประจำชาติ โดยส่วนใหญ่มีเจตนาจะโชว์ชุดสวยที่ยู่ข้างในอีก 1 ชั้น .. เพียงแต่ว่า “ชุดสวยข้างใน” ของสาวๆ วัยใสในวันนี้ กลับเป็น “ชุดชั้นใน” ที่อยู่ในสุด ซึ่งเป็นชั้นสุดท้าย

เด็กสาวหลายคนยังนิยมตัดอ๋าวหย่ายบางให้รัดรูปจนแน่นเปรี๊ยะ มองเห็นรอยต่อบริเวณองค์เอง ระหว่างชั้นใน 2 ชิ้นอย่างชัดเจน ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ “เดิ๊ตเหวียด” (Dat Viet) ภาษาเวียดนามรายงาน

แฟชั่นอ๋าวหย่ายซีทรูที่มองเห็นทะลุโปร่ง ระบาดอยู่ในหมู่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งโรงเรียนส่วนใหญ่ยังบังคับให้นักเรียนต้องสวมชุดประจำชาติไปเรียน เพื่อให้ดูเป็นระเบียบ แม้ว่าทางการจะผ่อนผันให้ไม่ต้องแต่งให้ครบสัปดาห์ละ 5 วันก็ตาม

“การที่หญิงสาวคนหนึ่งมีรูปร่างสวยงามนับเป็นของขวัญล้ำค่าจากธรรมชาติ การสวมชุดยาวบางเบาไม่น่าจะเสียหายอะไรและยังดูมี่เสน่ห์อีกด้วย หากสามารถปกปิดข้างในได้มิดชิด” หนังสือพิมพ์ออนไลน์อ้างคำพูดของนักเรียนสาวในกรุงฮานอยคนหนึ่ง แสดงความเห็นในฟอรั่มสนทนาของเหล่าวัยรุ่น
สวยต้องอวด by Báo Đất Việt

2

3

4

เธอยังเขียนต่ออีกว่า การที่หญิงสาวแต่งกายอวดความสวยนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่จะดียิ่งขึ้นหากจะไม่สร้างความอื้อฉาว และได้รับการยอมรับจากสังคมรอบข้าง ไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำให้ผู้คนต้องเบือนหน้าหนี และเข้าใจคนรุ่นใหม่อย่างผิดๆ

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์อ๋าวหย่ายซีทรูไม่ได้เกิดขึ้นในหมู่หญิงสาวคนรุ่นใหม่ทุกรุ่นอายุ ในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หญิงสาวเหล่านั้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้บังคับให้ต้องสวมอ๋าวหย่ายไปเรียน สาวอุดมศึกษาจึงค่อนข้างเสรีและแต่งเนื้อแต่งตัวตามสมัยนิยมของตนเอง

แต่น่าเป็นห่วง ก็คือ ก่อนหน้านี้ เด็กสาว ม.ปลาย ยังรู้จักเขินอายมากกว่านี้ พวกเธอแต่งอ๋าวหย่ายปรกติที่ดูเรียบร้อยไปเรียน แต่จะซ่อนอ๋าวหย่ายซีทรูทันสมัยในกระเป๋าอีกใบหนึ่ง เอาไว้แต่งอวดกันหลังเลิกเรียนหรือไปแวะศูนย์การค้าก่อนกลับบ้าน

แต่ในวันนี้ไม่มีการซุกซ่อนอะไรอีกแล้ว ชุดเรียนกับชุดเที่ยวเป็นชุดบางเบาแบบมองทะลุโปร่งชุดเดียวกัน เดิ๊ตเหวียดกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น