xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามเลือกนายกฯ คนเก่า “เหวียนเติ๋นยวุ๋ง” คะแนนนิยมพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 21 ก.ค.2554 นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (กลาง) เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ นายเหวียนฝูจ็อง (ซ้ายสุด) นายโตฮวีหรัว (กลาง) ประธานคณะกรรมการโฆษณาและอบรมพรรคคอมมิวนิสต์ นายนงดึ๊กแหม่ง อดีตเลขาธิการใหญ่พรรค กับ นายเหวียนซีงหุ่ง (ซ้ายสุด) ประธานรัฐสภาคนล่าสุด ทั้งหมดเข้าร่วมในพิธีสักการะอนุสรณ์สถานโฮจิมินห์ ก่อนจะเปิดการประชุมสมัยปฐมฤกษ์ รัฐสภาเวียดนามชุดที่ 13 ในวันอังคาร 16 ก.ค.นี้ นายวุ๋ง ได้รับความไว้วางใจจากผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนโหวตท่วมท้นให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย.--   AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam. </b>
นำเสนอครั้งแรกเวลา 16:39 น. วันที่ 26 ก.ค.2554 เพิมเนื้อหากับรูปประกอบเวลา 02:42 น. วันที่ 27 ก.ค.2554

ASTVผู้จัดการออนไลน์ – รัฐสภาเวียดนามได้รับรองด้วยเสียงส่วนใหญ่ให้ นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyễn Tấn Dũng) สมาชิกกรมการเมืองอาวุโส และ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำรัฐบาลอีก 1 สมัย ในการลงมติบ่ายวันอังคาร 26 ก.ค.ศกนี้ หลังได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีคนใหม่

แต่ถ้าหากคะแนนโหวตจะสามารถบ่งชี้อะไรสักอย่างได้ นายยวุ๋งย่อมจะภาคภูมิใจได้ว่า ตัวเองได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นจากการโหวตในวันอังคารนี้เทียบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

นายกรัฐมนตรีที่เข้าดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการ ได้รับคะแนน 470 เสียงจากรัฐสภาที่มีสมาชิกเป็นผู้แทนราษฎรทั้งหมด 500 คน หรือคิดเป็น 94% และ มีผู้แทนราษฎรที่ไม่เห็นด้วยจำนวน 30 หรือ 6% ทั้งนี้ เป็นตัวเลขของซเวินจี๊ (Dân trí) สำนักข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยม

ในเดือน มิ.ย.2549 นายยวุ๋ง เคยได้รับคะแนนโหวต 92% เพื่อเข้ารับตำแหน่งสมัยแรก จากสภานิติบัญญัติชุดเก่าที่มีสมาชิก 496 คน

นอกจากนั้น ถ้าหากคะแนนโหวตจะบอกนัยอะไรสักอย่างทางการเมือง สิ่งนั้นก็คือ นายกรัฐมนตรีได้รับคะแนนโหวตน้อยกว่าประธานาธิบดี ซึ่งเมื่อวันจันทร์ผู้แทนราษฎรจำนวน 496 คน ได้ทุ่มคะแนนให้ นายเจืองเติ๋นซาง (Trương Tấn Sang) คิดเป็น 97% ของทั้งรัฐสภา

อย่างไรก็ตาม คะแนนที่กระเตื้องขึ้นสำหรับนายกฯ ดูเหมือนเป็นการให้กำลังใจเพื่อสู้กับความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่เวียดนามกำลังเชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 22.3% ในเดือน ก.ค.นี้ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ทั้งนี้ เป็นตัวเลขของสำนักงานใหญ่สถิติเวียดนาม (General Statistics Office)

สิ่งที่บรรดาผู้แทนราษฎรฝากฝังนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันอังคารนี้ก็คือ ให้รัฐบาลเร่งจัดการกับเงินเฟ้อ รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และ ช่วยเหลือบริษัทขนาดกลางขนาดย่อม ที่ขาดแคลนเงินลงทุนอย่างหนักในปัจจุบัน

ในวันเดียวกันรัฐสภายังลงมติเลือกบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญอีก 3 ตำแหน่งคือ นางเหวียนถิดวาน (Nguyễn Thị Doan) รองประธานาธิบดีได้รับเลือกอีกสมัย นายเจืองหว่าบี่ง (Trương Hòa Bình) ประธานคณะกรรมการศาลสูงสุดได้รับเลือกอีกสมัยเช่นกัน และ นายเหวียนหว่าบี่ง (Nguyễn Hòa Bình) ได้รับเลือกเป็นประธานคณะอัยการประชาชนสูงสุด แทนคนเดิมที่เกษียณ
.
<bR><FONT color=#000033>ภาพแฟ้ม 1 ต.ค.2552 นายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง กับนายเหวียนดึ๊กหาย (ซ้าย) เลขาธิการพรรคสาขา จ.กว๋างนาม ออกเยี่ยมเยือนราษฎรและตรวจพื้นใกล้กับเมืองมรดกโลกโฮยอาน ที่ถูกไต้ฝุ่นเกดสะหนาพัดเข้าทำลาย 2 วันก่อนหน้านั้น เคยอยู่ในกองทัพมาก่อน มียศเป็นถึงนายพลตรี นายกฯ เวียดนามย่อมไม่หวั่นการลุยน้ำลุยโคลน สร้างความประทับใจในหมู่ประชาชน. --  REUTERS/Kham.   </b>
.
ตามประวัติอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรีเวียดนามเกิดปี.2493 ที่ จ.ก่ามาว ทางตอนใต้สุดของประเทศ เข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งแรกในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 6 ได้รับเลือกเข้าเป็นกรรมการกรมการเมืองพรรคตั้งแต่สมัยที่ 8 อยู่ในองค์กรสูงสุดนี้ต่อมาอีก 4 สมัยจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนั้นยังได้รับเลือกเป็นผู้แทนราษฎรตั้งแต่รัฐสภาชุดที่ 10 ติดต่อกันมาจนถึงชุดที่ 13 ในขณะนี้

เริ่มจากการรับราชการเป็นนายทหารเสนารักษ์ ศึกษาทฤษฎีชั้นสูงจากสถานบันเหวียนไอก๊วก (โฮจิมินห์) ก่อนจะเติบโตและได้รับการเลื่อนยศเป็นพลตรี เป็นเสนาธิการและรองผู้บัญชาการกองทัพภาค 9 ใน จ.เกียนซยาง (Kien Giang) ติดชายแดนกัมพูชา ก่อนจะผกผันเข้าสู่การเมืองในจังหวัดดังกล่าว

นายยวุ๋งเป็นประธานคณะกรรมการประชาชน (ผู้ว่าราชการ) จ.เกียนซยาง และเป็นกรรมการกลางพรรค ก่อนจะเข้ากรุงฮานอยในปี 2539 เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคง บัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ในเดือน มิ.ย.ปีเดียวกัน ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเปิดประชุมใหญ่ "กลางสมัย" นายวุ๋งได้รับเลือกเข้าเป็นกรรมการประจำกรมการเมืองพรรค และยังมีตำแหน่งสำคัญในพรรคคอมมิวนิสต์อีกจำนวนหนึ่ง

ขณะเดียวกันระหว่างปี 2541-2542 นายยวุ๋งได้เข้ารักษาการตำแหน่งผู้ว่าธนาคารแห่งรัฐ หรือ ธนาคารกลางเวียดนามอีกตำแหน่งหนึ่ง

เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกฯ สมัยแรกวันที่ 7 มิ.ย.2549 เศรษฐกิจเวียดนามกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องและในอัตราสูงเป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากเศรษฐกิจจีนเท่านั้น แต่เศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีปัญหาในปี 2551 ทำให้เวียดนามซึ่งเป็นประเทศส่งออกสินค้า ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และ เงินเฟ้อเริ่มพุ่งขึ้นสูงในต้นปีนั้น และ พุ่งขึ้นสูงสุดกว่า 30% ทำสถิติตลาดกาลในเดือน ส.ค.

ห้าปีที่ผ่านมานายยวุ๋งเป็นกำลังสำคัญในการกำหนดอนาคตของประเทศ ในอีก 5 ปีข้างหน้า ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งจะต้องลงมือปฏิบัติเองให้เป็นไปตามนั้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น