ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจนครโฮจิมินห์กำลังปวดหัวกับพบศพคนตายจำนวน 39 ศพ ที่ถูกยัดใส่ถุงซุกอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้เป็นเวลาเกือบ 2 ปี เจ้าของตัวจริงที่อาศัยทำกินในญี่ปุ่นกลับประเทศมาเมื่อเดือนที่แล้ว เปิดเข้าไปในบ้านตัวเองถึงกับขวัญผวา
นายเลเหวียดถวี (Le Viet Thuy) วัย 42 ปี ชาวเวียดนามที่อาศัยทำกินอยู่ในญี่ปุ่น กลับไปเยี่ยมเวียดนามหลายปีก่อนและซื้อบ้านหลังนี้ในเขต อ.บี่งแจ๋ง (Binh Chanh) โดยใช้ชื่อของเพื่อน
ในปี 2547 นายซเวืองวันหล็อก (Duong Van Loc) ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอำเภอที่ 8 ได้โทรศัพท์ไปหา ขอเช่าบ้านเพื่อทำเป็นร้านจำหน่ายโลงศพ และได้ตกลงไปตามนั้น
นายหล็อกเปิดร้านขายโลงศพในเดือน ต.ค. 2547 และ อีก 3 ปีต่อมาคือปี 2550 ได้โอนกิจการให้แก่นางดั่งถิซเวียมเซือง (Dang Thi Diem Suong) ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อร้านใหม่ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ตำรวจเปิดเผยเรื่องนี้กับหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋
อย่างไรก็ตาม 2 ปีต่อมาคือ ในปี 2552 นางซเวืองได้เลิกกิจการเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ประสบปัญหาขาดทุน และไม่มีใครพบเจ้าตัวอีกตั้งแต่นั้น
การสอบสวนในเบื้องต้นได้ทราบว่า ในปี 2552 นางซเวืองได้เซ็นสัญญากับทางการท้องถิ่น อ.บี่งแจ๋ง เพื่อขุดศพออกจากหลุมฝังจำนวน 184 หลุมในสุสานแห่งหนึ่ง เพื่อนำเอาที่ดินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น แต่ก็ไม่พบหลักฐานใดๆ ว่า ทั้ง 39 ศพที่พบยัดถุงในบ้านหลังดังกล่าว ขุดไปจากสุสาน
ตำรวจจะต้องตามหาตัวนางซเวือง ซึ่งอาจจะให้แสงสว่างในการสอบสวนสืบสวน เพื่อให้ทราบตัวตนของผู้ตาย สาเหตุและวันเวลาที่เสียชีวิต
นายหล็อกผู้เป็นต้นความคิดเปลี่ยนบ้านหลังนี้ให้เป็นร้านขายโลงศพให้การกับตำรวจว่า หลังจากโอนกิจการไปให้นางซเวืองแล้ว ตัวเองก็ไปบวชเป็นสงฆ์ที่วัดแห่งหนึ่ง และไม่เคยได้พบกับนางซเวืองอีกเลย
สำหรับนายถวี ข่าวไม่ได้บอกว่ากลับญี่ปุ่นไปหรือยัง และจะทำอย่างไรต่อไปกับบ้านหลังนี้
หลายปีมานี้ที่ดินในนครโฮจิมินห์ราคาพุ่งขึ้นสูงทำให้ทางการต้องย้ายสุสานหลายแห่งออกนอกเมือง เพื่อนำที่ไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งสุสานใหญ่ที่สุดที่อยู่มานานหลายสิบปี และ มีหลุมศพกว่า 100,000 หลุม ก็มีกำหนดจะเริ่มขุดและขนย้ายกันในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ตำรวจกล่าวว่ายังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าทั้ง 39 ศพ ขุดไปจากสุสานแห่งอื่นใดหรือไม่ และหากขุดไปผู้ใดเป็นคนขุด เพื่ออะไร และใครนำเข้าไปเก็บในบ้านหลังนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
