อดีตแกนนำเขมรแดงให้คำมั่นช่วยเหลือศาลหาความจริง

เอเอฟพี - อดีตแกนนำเขมรแดงที่เข้ารับพิจารณาคดีข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในวันนี้ (30 มิ.ย.) ได้ให้คำมั่นที่จะให้ความร่วมมือกับศาลพิเศษของสหประชาชาติที่จะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับยุคทุ่งสังหารของประเทศ

“โดยส่วนตัว ผมไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด แต่ผมจะพยายามรื้อฟื้นความทรงจำเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างได้เปิดเผยออกมาทั้งหมด” นายเขียว สัมพัน อดีตประธานแห่งรัฐ กล่าว

“มันเป็นความทรงจำสำคัญที่สุดของผมและสำหรับเพื่อนร่วมชาติที่ต่างกระหายจะรู้และเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2518-2522”

นอกจาก นายเขียว สัมพัน ยังรวมถึง นายนวน เจีย อดีตผู้นำหมายเลขสอง นายเอียง สารี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และ นางเอียง ธิริธ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกิจการสังคม ต่างได้รับข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

จำเลยทั้ง 4 ที่อยู่ในวัยแก่ชราล้วนเป็นสมาชิกอาวุโสที่ยังมีชีวิตอยู่ ในการปกครองสมัยเขมรแดง ที่เป็นสาเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตมากถึง 2 ล้านคน จากความอดอยาก ทำงานหนัก และการสังหาร แต่ทั้ง 4 ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ได้รับ

การพิจารณาคดีที่เข้าสู่วันที่ 4 แต่เกิดการโต้แย้งเกี่ยวกับพยานและผู้เชี่ยวชาญ โดยจำเลยได้ร้องเรียนว่าศาลไม่ยอมอนุญาตให้นำพยานที่พวกเขาเสนอเข้าร่วมการพิจารณาด้วย

นายเขียว สัมพัน แต่งตัวด้วยชุดสบายๆ และอ่านเอกสารที่เตรียมขึ้นกล่าว ได้ร้องเรียนต่อผู้พิพากษาให้ยอมรับพยานสำคัญของเขาเพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างยุติธรรม และว่าความจริง ความสัตย์ และความเป็นธรรมของเขาจะได้เปิดเผยออกมา

ชายอายุ 79 ปีผู้นี้ ได้แสดงความเคารพต่อชาวกัมพูชาหลายร้อยคน ที่รวมทั้งพระสงฆ์ ซึ่งรวมอยู่ในห้องรับฟังคดีของศาล ทั้งนี้ นายเขียว สัมพัน ไม่เคยปฏิเสธว่าประชาชนชาวเขมรต้องทนทุกข์ทรมานกับความโหดร้ายที่เกิดขึ้น แต่เขาอ้างว่า เขาเป็นนักวิชาการและเป็นผู้รักชาติและรู้เรื่องราวเพียงเล็กน้อย จนกระทั่งเกิดการทำลายล้างภายใต้การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์

ในการปกครองยุคเขมรแดงที่นำโดยนายพอล พต หรือผู้นำหมายเลข 1 ซึ่งเสียชีวิตลงในปี 2541 ได้เคลื่อนย้ายประชาชนออกจากเมือง ยกเลิกระบบเงินตราและโรงเรียน เพื่อสร้างสังคมยูโทเปียแบบเกษตรกรรม ก่อนที่เขมรแดงจะถูกขับไล่โดยกองกำลังเวียดนาม.