เอเอฟพี - สื่อของพม่ารายงานวันนี้ (19 มิ.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่พม่าได้สั่งห้ามขายของตามถนนในกรุงย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าของพม่า ในช่วงกลางวันที่เป็นเวลาค้าขาย อ้างเกรงสร้างความแออัด และความไม่สงบ ส่งผลให้บรรดาคนขายของไม่พอใจ
หนังสือพิมพ์เมียนมาร์ไทม์ส รายงานว่า นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กวาดล้างหาบเร่แผงลอยถนนตามคำสั่งของรัฐบาลชุดใหม่ โดยให้ผู้ขายรวมกันอยู่ในตลาด และผู้ขายส่วนใหญ่สามารถกลับที่ถนนได้อีกหลังเวลา 15.00 น.แต่มีรายงานว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าไม่พอใจกับกฎระเบียบใหม่นี้ และว่า พวกเขาอยู่ในสภาพยากลำบากอยู่แล้ว ทั้งนี้ มีพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของตามถนนอยู่ในเมืองนับหมื่นคน
เจ้าหน้าอาวุโสกล่าวกับหนังสือพิมพ์ ว่า ความไม่สงบและการต่อสู้อาจเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้ขายกำลังขายสินค้าบนทางเท้า และเป็นการยากที่จะเฝ้าตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อผู้คนแออัดและยากที่จะหาใครสักคนหากทางการพยายามจะดำเนินการจับกุม
“พื้นที่เหล่านี้สามารถดึงดูดบรรดาผู้ก่อการร้ายที่ต้องการวางระเบิด พวกเขาสามารถแกล้งทำเป็นคนขายหรือคนซื้อก็ได้ ดังนั้นเราพยายามที่จะกำจัดคนขายออกไป” เจ้าหน้าที่รายเดิมกล่าว
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินโครงการให้ความรู้เป็นระยะเวลานาน 2 เดือน และใครที่ละเมิดกฎหลังจากนี้จะต้องถูกจำคุก 1 ปี
นางมา ซาน มินท์ ที่ก่อนหน้านี้เคยขายของอยู่บนถนนอนอระธา (Anawrahta) ใจกลางกรุงย่างกุ้ง กล่าวว่า เธอรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องย้ายเพิงขายผักไปที่ตลาดจันเมที่ทำเลไม่ดีและไม่ค่อยมีคน
“ที่นี่ทำให้เราหาลูกค้าได้ลำบากยิ่งกว่าเดิม” แม่ค้าอายุ 39 ปี กล่าว