xs
xsm
sm
md
lg

อะเมซิ่งท้ายลาน! เวียดทึ่งราชภัฏสวนดุฯ สวรรค์สาวเฉาะ-เอ๊าะนะยะกล้ามใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับชาวไทย แต่สำหรับเพื่อนบ้านปรากฏการณ์นี้ยังเต็มไปด้วยความน่าทึ่ง เป็นอะเมซซิ่งไทยแลนด์ ที่สถาบันการศึกษาอันเก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งยอมรับให้ ชาย นุ่งกระโปรงสั้นสวมเสื้อรัดรูปยอดนิยมในหมู่สาวนักศึกษาสาวทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตมีนักศึกษาสาวประเภท 2 และ 3 นับร้อยคน พวกเธอ (เขา?) ได้รับการปฏิบัติจากสถาบันเช่นนักศึกษา สาวประเภท 1 ของแท้ทุกประการ.<bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ผู้อ่านสื่อออนไลน์ในเวียดนามพากันทึ่งเสรีภาพในประเทศไทย เมื่อได้เห็น “นักศึกษาสาวประเภทสาม” สาวแปลงเพศ รวมทั้งประเภทสองที่ยังไม่ได้แปลงเพศ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มีสิทธิเท่าเทียมกับนักศึกษาหญิงทั่วไป “ผู้ชาย” เหล่านั้นพากันผัดหน้าขาว สวมชุดรัดติ้วเข้าห้องเรียนพร้อมกับเพื่อนที่เป็นสาวประเภทหนึ่งของแท้

ถึงแม้ว่าเรื่องสาวนะยะในมหาวิทยาลัยได้กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาและเป็นที่ทราบกันมานานในประเทศ และมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้เคยแถลงต่อสังคมอย่างเป็นเรื่องมาแล้วก็ตาม สำหรับประเทศเพื่อนบ้านเรื้องนี้เป็นอะเมซิ่งไทยแลนด์อีกอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

เว็บไซต์ Stomp.com.sg ของเดอะสเตรทไทมส์ นำเอาภาพชุดนักศึกษาสาวนะยะหน้าขาวเหล่านี้ออกเผยแพร่มาพักหนึ่ง เรียกแฟนๆ ได้มากพอสมควร สื่อออนไลน์ในเวียดนามหลายสำนักนำไปเผยแพร่ต่อด้วยความทึ่ง

นอกจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตจะเป็นแหล่งรวมของสาวสวยและเคยปั้นนางงามระดับชาติมาแล้ว ที่นี่ก็เป็นแหล่งรวมของบรรดาสาวๆ ระดับมิสทิฟฟานีเช่นกัน “นักศึกษาชาย” เหล่านี้ได้รับการปฏิบัติจากสถาบันอย่างเท่าเทียมกับนักศึกษาหญิงทั่วไปทุกประการ

พวกเธอ (เขา?) นุ่งกระโปรงสั้นและสวมเสื้อรัดๆ ยอดนิยมแห่งยุค ผัดหน้าขาว เข้าห้องเรียนโดยไม่มี่ผู้ใดถือเป็นเรื่องผิดปรกติ สำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรสกล่าว

ปี 2551 สถาบันศึกษาอันเก่าแก่ของกรุงเทพฯ อดีตโรงเรียนการเรือนอันมีชื่อเสียง มีนักศึกษาสาวประเภทสอง และสาม ราว 100 คน วันนี้อาจจะมากกว่านั้นเนื่องจากมหาวิทยาลัยไม่จำกัดจำนวน ไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจ แม้จะกล่าวว่าไม่มีนโยบายส่งเสริมให้เยาวชน ตั้งหน้าตั้งตาเป็นกะเทยก็ตาม สำนักข่าวออนไลน์ในเวียดนามกล่าวว่า

ในเวียดนามเองเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ถึงแม้ว่าจะมีสาวประเภทสอง และสาม นับหมื่นหรือหลายหมื่นคน แต่คนเหล่านั้นยังคงรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยอยู่เงียบๆ ในประชาคมเดียวกัน แต่จะแสดงออกในโอกาสสำคัญต่างๆ รวมทั้งในการแข่งขันฟุตบอล V-League นัดต่างๆ หรือแม็ตช์ใหญ่ระดับระหว่างประเทศ

“เป็นเรื่องที่น่าทึ่งอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้” ผู้อ่านของสำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรสคนหนึ่งเขียนให้ความเห็น.

ใครเป็นอะไรก็สุดจะคาดเดา stomp.com.sg และ VietnamExpress

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11
กำลังโหลดความคิดเห็น