เอเคพี - ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2554 มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแม้จะมีปัญหาพรมแดนระหว่างกันก็ตาม
ข้อมูลสถิติของสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญระบุว่า มูลค่าแลกเปลี่ยนการค้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 35% จาก 527 ล้านดอลลาร์ เป็น 716 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2553
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของมูลค่าทางการค้านี้เป็นปัจจัยสำคัญต่อการแก้ปัญหาข้อพิพาทพรมแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้างทั้งสองแห่งนี้
นายทุน สะไร ประธานสมาคมสิทธมนุษยชนและพัฒนาชาวกัมพูชา (ADHOC) กล่าวว่า การค้าที่เพิ่มขึ้นนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทย
"กิจกรรมทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศจะแยกออกไม่ได้แม้จะมีปัญหาพรมแดน การค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นนี้อาจอำนวยความสะดวกในการเจรจายุติความขัดแย้งทางทหารและการเมืองได้" นายทุน สะไร กล่าวย้ำ
ทางด้านนายเชียง วรรณฤทธิ์ ประธานบริหารสถาบันเพื่อความร่วมมือและสันติชาวกัมพูชา กล่าวว่า เหตุปะทะบริเวณพรมแดนส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อกิจกรรมทางการค้าต่างๆ และการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการค้าเป็นปัจจัยบวกต่อการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองประเทศ
ส่วนนายจัน สุพัล ประธานสมาคมเศรษฐกิจกัมพูชา กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งจะไม่เกิดขึ้นหากคิดถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม และว่า การเพิ่มขึ้นของการค้าระหว่างประเทศเป็นเหตุผลสำคัญที่จะยุติปัญหาพรมแดนและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน
นายจัน โนรา รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา กล่าวว่า การต่อสู่ระหว่างกองกำลังทหารของกัมพูชาและไทยส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อการค้า และว่าการค้าเป็นเรื่องการแสวงหากำไร เมื่อบรรดาคนค้าขายคิดว่าเป็นเรื่องของกำไร พวกเขาก็ยังคงค้าขายต่อไป
นางจิรนันท์ วงศ์มงคล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ประจำสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ ระบุว่า การค้าที่เพิ่มขึ้นช่วยสร้างความไว้วางใจต่อกันระหว่างนักธุรกิจไทยและกัมพุชา และหวังให้การค้ายังคงเพิ่มขึ้นต่อไปตลอดทั้งปี 2554
รายงานสถิติมูลค้าทางการค้าระหว่างไทยและกัมพูชา ระบุว่า ไทยส่งออกปิโตรเลียม วัสดุก่อสร้าง สินค้าบริโภค ผัก ผลไม้ และเครื่องสำอาง เป็นต้น มายังกัมพูชา ขณะที่กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตร สิ่งทอ สินค้าจากการประมง มายังไทย.