ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐบาลพม่าทำเงินได้ถึง 2,800 ล้านดอลลาร์ หรือ กว่า 2,000 ล้านยูโร จากการประมูลขายหยกและอัญมณีต่างๆ เพียงครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งสูงอย่างเป็นประวัติการณ์ นิตยสารข่าวเมียนมาร์ไทมส์ รายงานเรื่องนี้โดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่
รายได้ในการประมูลอัญมณีครั้งที่ 48 ระหว่างวันที่ 10-22 มี.ค.2554 ซึ่งมีการจำหน่ายไปทั้งหมด 13,608 ลอต เป็นเงินเกือบจะเท่าๆ กับรายได้ จากการประมูล 3 ครั้ง ในปี 2553 รวมกัน 3,080 ล้านดอลลาร์ (กว่า 2,200 ล้านยูโร) เจ้าหน้าที่คนเดียวกัน กล่าว
ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่จัดการประมูลขึ้นในเมืองหลวงใหม่เนปีดอ ก่อนหน้านี้ ทุกปีจัดจำหน่ายในกรุงย่างกุ้ง ซึ่งมีรายงานเกี่ยวกับเงินรายได้ครั้งละ 100-2000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
หนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ รายงานก่อนหน้านี้ ว่า งานประมูลครั้งล่าสุดได้รับความสนใจจากผู้ค้า 8,700 ราย ในนั้น 4,719 ราย เป็นผู้ซื้อจากต่างประเทศ
คราวล่าสุดนี้ มีการนำหยกออกจำหน่ายรวม 17,000 ล็อตใหญ่ (เทียบกับเพียง 9,000 ล็อต คราวที่แล้ว) ไข่มุกอีก 285 ล็อต และอัญมณีอื่นๆ อีก 206 ล็อต ไข่มุกขายได้ 253 ล็อต และอัญมณีอื่นๆ อีก 30 ล็อต ซึ่งมากกว่าเมื่อเปิดประมูลเดือน พ.ย.2553 นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ กล่าว
ผู้ค้ารายหนึ่ง กล่าวว่า ทั้งหมดซื้อขายเป็นเงินสกุลยูโร และโอนเงินเป็นสกุลยูโร ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
