เอเอฟพี - กลุ่มคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชั้นนำ เรียกร้องรัฐบาลกัมพูชา วันนี้ (7 เม.ย.) ให้ยุติร่างกฎหมายที่ยังเป็นประเด็นขัดแย้ง ซึ่งพวกเขาต่างวิตกกังวล ว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวมีจุดประสงค์ที่จะจำกัดกิจกรรมของบรรดานักเคลื่อนไหวรณรงค์และการกุศลต่างๆ
องค์กรฮิวแมนไรท์วอชท์ องค์กรนิรโทษกรรมสากล และหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนอีก 6 กลุ่ม ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวที่อยู่ในระหว่างการทบทวนขั้นสุดท้าย ควรจะยกเลิกไป เพราะจะเป็นการทำลายมากกว่าส่งเสริมประชาสังคม และว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้คุกคามสิทธิเสรีภาพของสมาคม และทำให้การวิจารณ์ของประชาสังคมเงียบลง เพราะกฎหมายจะเอื้อให้รัฐบาลสามารถปฏิเสธการลงทะเบียน หรือปิดองค์กรพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร หรือเอ็นจีโอ ได้โดยไม่มีสิทธิอุทธรณ์
แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า รัฐบาลกัมพูชาล้มเหลวที่จะให้คำตอบที่เพียงพอว่าเหตุใดกฎหมายใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นควบคู่ไปกับกฎหมายและข้อระเบียบอื่นๆ ที่มีอยู่เดิมที่ควบคุมประชาสังคมอยู่แล้ว และองค์กรต่างๆ เรียกร้องให้ประเทศผู้บริจาคแสดงท่าทีต่อเรื่องดังกล่าว โดยนายไซมอน เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการองค์การโกลบอลวิทเนส กล่าวว่า หากประเทศผู้บริจาคเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลกัมพูชาจะมีมติบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว พวกเขาไม่สามารถที่จะทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากัมพูชาได้
องค์กรการกุศลต่างๆ มีบทบาทในการฟื้นฟูกัมพูชานับตั้งแต่ประเทศสิ้นสุดการปกครองระบอบเขมรแดง และสงครามกลางเมืองที่ยาวนานหลายปี แต่องค์กรเหล่านี้ยังคงต้องต่อสู้กับรัฐบาลเป็นบางโอกาส และในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า มีความวิตกกังวลอย่างมากต่อร่างกฎหมายดังกล่าว และสอบถามถึงความจำเป็นของกฎหมาย แต่โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ยืนยันว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ดำเนินกิจกรรมของพวกเขาได้ตามกฎหมายของกัมพูชา และว่า เอ็นจีโอจำนวนหนึ่งใช้เงินทุนที่ได้รับเพื่อประโยชน์ของตนเอง และไม่ได้ทำงานให้กับสังคม และว่า เอ็นจีโอมากกว่า 3,000 องค์กรที่อยู่ในกัมพูชา มีไม่ถึง 100 องค์กรที่ประท้วงกฎหมายฉบับนี้