.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชา นายเขียว กัญฤทธิ์ บอกกับคณะผู้แทนสื่อจากประเทศไทย ที่ไปเยี่ยมเยือนในกรุงพนมเปญในวันอังคาร 1 ก.พ.นี้ว่า จุดยืนของกัมพูชา คือ ประสงค์จะแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี อยากขยายความสัมพันธ์ร่วมมือ และ ลดความขัดแย้งให้น้อยที่สุด
ต่างไปจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่ง “เขียวขี้เมา” อันเป็นฉายาที่เจ้าตัวได้รับจากสื่อในกัมพูชา ประกาศลั่นว่า สงครามอาจจะเกิดขึ้น “บ่ายวันนี้หรือพรุ่งนี้” ขณะที่กัมพูชาเสริมกำลังพล เคลื่อนรถถังและอาวุธหนัก เข้าสู่ชายแดนไทย ทั้งเตือนไม่ให้ทหารไทยขัดขวางการสร้างถนนขึ้นเขาไปยังปราสาทพระวิหาร
นายเขียว กล่าวว่า กัมพูชากับไทยเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกัน ไม่สามารถย้ายหนีจากกันได้ เป็นธรรมดาที่ทุกประเทศต่างไม่อยากจะสูญเสียดินแดน “แต่สำคัญที่สุด ก็คือ พวกเราต้องทำอย่างดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม ถ้าหากต่อสู้กันประชาชนจะเป็นฝ่ายที่ตาย ไม่ใช่นักการเมือง” สำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchean-Presse) ของทางการรายงาน
นายกัญฤทธิ์ ให้การต้อนรับคณะ ที่นำโดย นายประสิทธิ์ แสงรุ่งเรือง เลขาธิการสหภาพสื่อแห่งอาเซียน และได้มีการหารือเกี่ยวกับสองคนไทยที่ถูกจับ ถูกดำเนินคดีข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย และข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงในขณะนี้ คือ นายวีระ สมความคิด กับ นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ เลขานุการของนายวีระ
รัฐมนตรีกัมพูชา บอกกับคณะที่ไปเยือน ว่า ไม่มีใครสามารถไปก้าวก่ายศาลได้ในขณะนี้ กัมพูชาจะช่วยเหลือได้ก็ต่อเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการในศาลแล้วเท่านั้น กัมพูชาไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการกักขัง นายวีระ ในประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ต้องการให้ นายวีระ ใช้เรื่องนี้ “เป็นประโยชน์ทางการเมือง” แต่ก็ไม่ได้อธิบาย
“กัมพูชากับไทยจะต้องอยู่ด้วยกันไปชั่วฟ้าดินสลาย เราไม่สามารถย้ายไปที่อื่นได้” นายกัญฤทธิ์กล่าว
คณะผู้เข้าพบได้ยื่นหนังสือถึงผู้นำกัมพูชา ขอให้ช่วยเหลือคนไทย นายวีระ กับ น.ส.ราตรี ซึ่งนายเขียว ได้รับปากจะนำเรื่องนี้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน เอเคพีกล่าว.