ASTVผู้จัดการออนไลน์-- กิจกรรมหนึ่งที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในขณะนี้ก็คือ การขึ้นไปบนยอดภูสีแห่งเมืองหลวงพระบางเพื่อดื่มด่ำกับภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ มีรายงานเรื่องนี้ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของออสเตรเลีย
เมื่อก่อนกิจกรรมนี้เป็นเรื่องของหนุ่มสาว เพราะการขึ้นสู่จุดยอดภูแห่งใจกลางเมืองหลวงพระบางนั้น หมายถึงการเดินวนขึ้นไปตามบันไดหลายร้อยขั้น บางช่วงมีความสูงชัน ต้องหยุดพักเหนื่อยเป็นระยะๆ ผู้ที่จะขึ้นไปถึงตรงนั้นได้ จะต้องแข็งแรงพอ มีสุขภาพที่ดี ไม่มีโรคเกี่ยวกับความดันและโรคหัวใจ
"แต่ผลตอบแทนนั้นคุ้มค่า" นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง เขียนบอกเล่าประสบการณ์ของเขาในหนังสือพิมพ์ "ซันเดย์เมล์"
มองจากยอดภูสีไปทิศตะวันตก จะเห็นพระราชวังเก่าซึ่งกลายเป็นหอพิพิธภัณฑ์ ยืนตระหง่านอยู่เบื้องล่างท่ามกลางป่าตาลย่อมๆ เบื้องหลังโน้นเป็นลำน้ำโขง ไกลออกไปเป็นขุนเขาทางฝั่งบ้านเซียงแมน ในยามพระอาทิตย์ตกดิน ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ และให้บรรยากาศที่วังเวง นักท่องเที่ยวคนเดียวกันกล่าว
ช่วงเดือนที่ดีที่สุดสำหรับกิจกรรมนี้ก็คือ ปลายปีที่อากาศกำลังเย็นสบายค่อนไปทางหนาวเหน็บ และต้นปีที่เริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง เนื่องจากท้องฟ้าโปร่ง ไร้เมฆบดบังทัศนียภาพ
กิจกรรมชมพระอาทิตย์ตกดินบนยอดภูสีจะใช้เวลาเพียงประมาณครึ่งชั่วโมง การขึ้นยอดภูอาจจะใช้เวลามากกว่านั้น แม้จะทำให้เหนื่อยล้าบ้าง แต่ก็คุ้มค่าคุ้มเวลา เครื่องดื่มเย็นๆ ที่ห้องพักในโรงแรม หรือในร้านอาหารสักแห่งจะช่วยผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยลงได้ และ ดียิ่งกว่านั้นก็คือ อาหารมื้อเย็นจะเป็นมื้อที่แสนอร่อย
ในยามค่ำที่ตีนภูยังมี "ตลาดมืด" ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าหัตถกรรมและผ้าผืนที่ทอด้วยมือ กับสินค้าพื้นเมืองอื่นๆ อีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้เดินช็อปเก็บเป็นของที่ระลึกหรือของฝากสำหรับผู้รออยู่ข้างหลัง ก่อนจะกลับที่พักเตรียมตัวเดินทางในวันใหม่ ซึ่งปลายทางอาจจะเป็นถ้ำปากอู หรือน้ำตกกวงสี ที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร นักท่องเที่ยวคนเดียวกันกล่าว
ปีนี้เมืองมรดกโลกหลวงพระบางสามารถทวงตำแหน่ง "ปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม" กลับคืนมาได้อีกปี หลังจากนครเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นชิงเอาไปครองเมื่อปีที่แล้ว
นายคำผุย พมมะวง ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวของหลวงพระบาง ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ปัจจุบันรายได้ 70% ของแขวงไปจากการท่องเที่ยว และ ในปี 2552 มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมเมืองและแขวงแห่งนี้กว่า 400,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชีย คาดว่าจำนวนอาจจะถึง 500,000 คนในปีนี้
แขวงหลวงพระบางกำลังพยายามคัดสรรให้ได้นักท่องเที่ยวเกรดเอมากขึ้น ขณะพยายามอนุรักษ์เมืองเก่าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปเที่ยวชมเมืองใช้จ่ายเงินวันละกว่า 70 ดอลลาร์.