xs
xsm
sm
md
lg

วัฒนธรรมเก่ากลับมาใหม่ ไปดื่มด่ำ ดูตะวันตกดินบนภูสี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#3366ff>ภาพจาก Flickr.com เดือน พ.ย.2551 นักท่องเที่ยวชาวยุโรปกลุ่มใหญ่ปะปนกับนักท่องเที่ยวท้องถิ่นที่ลานชมวิวบนยอดภูสีแห่งเมืองหลวงพระบาง ในยามบ่ายคล้อย ใจจดจ่ออยู่กับภาพพระอาทิตย์ตกดินที่กำลังจะได้เห็นในอีกไม่นานข้างหน้า กิจกรรมนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่การท่องเที่ยวเมืองมรดกโลกของลาวได้ เมื่อก่อนมีเพียงคนหนุ่มคนสาวเท่านั้น ที่ขึ้นไปบนยอดภูในยามนี้ </FONT>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- กิจกรรมหนึ่งที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในขณะนี้ก็คือ การขึ้นไปบนยอดภูสีแห่งเมืองหลวงพระบางเพื่อดื่มด่ำกับภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ มีรายงานเรื่องนี้ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของออสเตรเลีย

เมื่อก่อนกิจกรรมนี้เป็นเรื่องของหนุ่มสาว เพราะการขึ้นสู่จุดยอดภูแห่งใจกลางเมืองหลวงพระบางนั้น หมายถึงการเดินวนขึ้นไปตามบันไดหลายร้อยขั้น บางช่วงมีความสูงชัน ต้องหยุดพักเหนื่อยเป็นระยะๆ ผู้ที่จะขึ้นไปถึงตรงนั้นได้ จะต้องแข็งแรงพอ มีสุขภาพที่ดี ไม่มีโรคเกี่ยวกับความดันและโรคหัวใจ

"แต่ผลตอบแทนนั้นคุ้มค่า" นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง เขียนบอกเล่าประสบการณ์ของเขาในหนังสือพิมพ์ "ซันเดย์เมล์"

มองจากยอดภูสีไปทิศตะวันตก จะเห็นพระราชวังเก่าซึ่งกลายเป็นหอพิพิธภัณฑ์ ยืนตระหง่านอยู่เบื้องล่างท่ามกลางป่าตาลย่อมๆ เบื้องหลังโน้นเป็นลำน้ำโขง ไกลออกไปเป็นขุนเขาทางฝั่งบ้านเซียงแมน ในยามพระอาทิตย์ตกดิน ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ และให้บรรยากาศที่วังเวง นักท่องเที่ยวคนเดียวกันกล่าว

ช่วงเดือนที่ดีที่สุดสำหรับกิจกรรมนี้ก็คือ ปลายปีที่อากาศกำลังเย็นสบายค่อนไปทางหนาวเหน็บ และต้นปีที่เริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง เนื่องจากท้องฟ้าโปร่ง ไร้เมฆบดบังทัศนียภาพ

กิจกรรมชมพระอาทิตย์ตกดินบนยอดภูสีจะใช้เวลาเพียงประมาณครึ่งชั่วโมง การขึ้นยอดภูอาจจะใช้เวลามากกว่านั้น แม้จะทำให้เหนื่อยล้าบ้าง แต่ก็คุ้มค่าคุ้มเวลา เครื่องดื่มเย็นๆ ที่ห้องพักในโรงแรม หรือในร้านอาหารสักแห่งจะช่วยผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยลงได้ และ ดียิ่งกว่านั้นก็คือ อาหารมื้อเย็นจะเป็นมื้อที่แสนอร่อย
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพจาก Flickr.com เดือน พ.ย.2551 ไม่ผิดหวัง และคุ้มค่าแก่การรอคอย ทิวทัศน์สวยงามในยามตะวันเคลื่อนลงลับขอบฟ้าและหายไปในท่ามกลางขุนเขาทางฝั่งบ้านเชียงแมน ฝั่งขวาแม่น้ำโขงแห่งเมืองหลวงพระบาง </FONT>
ในยามค่ำที่ตีนภูยังมี "ตลาดมืด" ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าหัตถกรรมและผ้าผืนที่ทอด้วยมือ กับสินค้าพื้นเมืองอื่นๆ อีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้เดินช็อปเก็บเป็นของที่ระลึกหรือของฝากสำหรับผู้รออยู่ข้างหลัง ก่อนจะกลับที่พักเตรียมตัวเดินทางในวันใหม่ ซึ่งปลายทางอาจจะเป็นถ้ำปากอู หรือน้ำตกกวงสี ที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร นักท่องเที่ยวคนเดียวกันกล่าว

ปีนี้เมืองมรดกโลกหลวงพระบางสามารถทวงตำแหน่ง "ปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม" กลับคืนมาได้อีกปี หลังจากนครเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นชิงเอาไปครองเมื่อปีที่แล้ว

นายคำผุย พมมะวง ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวของหลวงพระบาง ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ปัจจุบันรายได้ 70% ของแขวงไปจากการท่องเที่ยว และ ในปี 2552 มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมเมืองและแขวงแห่งนี้กว่า 400,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชีย คาดว่าจำนวนอาจจะถึง 500,000 คนในปีนี้

แขวงหลวงพระบางกำลังพยายามคัดสรรให้ได้นักท่องเที่ยวเกรดเอมากขึ้น ขณะพยายามอนุรักษ์เมืองเก่าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปเที่ยวชมเมืองใช้จ่ายเงินวันละกว่า 70 ดอลลาร์.
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพจาก Flickr.com เดือน พ.ย.2551 มองจากยอดภูไปทางทิศตะวันออก จะเห็นลำน้ำคานกับสะพานเก่าข้ามไปยังฝั่งเมืองงา ที่ไม่ปรากฎในภาพนี้คือส่วนหนึ่งของเมืองเก่าหลวงพระบางที่ตั้งขนานไปกับริมน้ำ ขณะนี้บนยอดภูสีได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่ง </FONT>
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพจาก Flickr.com เดือน พ.ย.2551 ทิวทัศน์ริมฝั่งตะวันตกหรือฝั่งขวาของแม่น้ำโขงดูสวยงามในยามสาย มีขุนเขาทะมึนเป็นฉากหลัง ระหว่างทางที่นักท่องเที่ยวนั่งเรือไปยังถ้ำปากอู ในบริเวณที่น้ำอู ไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทางตอนเหนือของเมืองหลววงพระบาง  </FONT>
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพจาก Flickr.com เดือน พ.ย.2551 ในที่สุดก็ถึงบริเวณถ้ำโบราณเก่าแก่ที่มีอยู่ 2 ชั้นล่างกับบน ภายในเป็นวัด และเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมเก็บพระพุทรูปเก่าและใหม่นับร้อยๆ องค์ ทำบุญ ไหว้พระ และยังมีทิวทัศน์สวยงามริมฝั่งแม่น้ำสองสายให้ชม</FONT>
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพจาก Flickr.com เดือน พ.ย.2551 ทิวทัศน์สวยงามในยามอาทิตย์อัศดง ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำโขง เป็นภาพประทับใจสุดท้ายของวัน ขณะที่เรือท่องเที่ยวหันหลังให้กับถ้ำปากอู กิจกรรมนี้เป็นจุดขายสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก คู่กับการขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกดินบนยอดภู </FONT>
กำลังโหลดความคิดเห็น