ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ฮอตที่สุดในแวดวงผู้ใช้โทรศัพท์ระบบ 3G ในเวียดนามสัปดาห์นี้ ก็คือ การแพร่คลิปฉากร่วมรักของนักศึกษาชาย-หญิงคู่หนึ่ง ที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มไนน์เอ็กซ์” (9X) คลิปความยาวประมาณ 14 นาที ถูกนำขึ้นโพสต์บนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกย่อขนาดไฟล์และเผยแพร่ผ่านโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่
นับเป็นปัญหาใหม่ในเวียดนาม หลังจากมีการเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สาย “ยุคที่ 3” ในเดือน ต.ค.2552 ผู้ให้บริการอีก 2 รายได้ทยอยเปิดบริการในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
คลิปนักศึกษาถูกส่งเข้าโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการนับร้อยคนในนครโฮจิมินห์ ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา และกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว จากคนสู่คน เครื่องสู่เครื่อง
เรื่องนี้แทรกขึ้นมาขณะที่ทางการกำลังพยายามปิดกั้นเว็บไซต์หลายแห่ง ที่เผยแพร่คลิปฉากร่วมรักของดาราสาวฮ่องกงคนหนึ่งกับคู่นอน ซึ่งในเวลาต่อมาคลิปถูกย่อขนาดลง และเผยแพร่ผ่านโทรศัพท์มือถือระบบ 3G อย่างรวดเร็ว
ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า คลิปล่าสุดนี้ถ่ายทำขึ้นมาโดยมีเจตนาจะนำออกเผยแพร่ มากกว่าเป็นการถ่ายทำเพื่อเก็บไว้ส่วนตัว แต่เกิดรั่วออกสู่สาธารณะ จึงมีแนวโน้มสูงว่า จะมีการถ่ายคลิปโชว์หวิวคล้ายกันนี้ออกเผยแพร่ผ่านทางโทรศัพท์มือถือมากขึ้นในวันข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่วัยรุ่นและนักศึกษาที่นิยมอวดสวยอวดงาม และอวดกิจกรรมที่เชื่อว่า จะทำให้ตนเองได้รับการยอมรับในหมู่เพื่อน
ผู้สังเกตการณ์กล่าวอีกว่า “9X” หมายถึง คนรุ่นใหม่ที่มีรสนิยมเฉพาะตัว มีความเป็นอิสระ มีความสามารถ และ ไม่สะทกสะท้านต่อสายตาของสังคมรอบข้าง แต่ขณะเดียวกัน วัยรุ่นเหล่านี้ก็ต้องการยอมรับจากสังคม
“เราควบคุมเทคโนโลยีไม่ได้แล้ว” สำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri) รายงาน อ้างคำกล่าวของผู้ใช้โทรศัพท์ไอโฟน 3G คนหนึ่ง ซึ่งได้รับคลิปนักศึกษาไนน์เอ็กซ์ชิ้นล่าสุดด้วย
เทคโนโลยี 3G ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งไฟล์มัลติมีเดีย รวมทั้ง MMS (Multi-media Message Service) ถึงกันได้ย่างรวดเร็ว และทรงพลัง ผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต โดยใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง
ในเชิงทฤษฎีนั้น โทรศัพท์ 3G มีประโยชน์อย่างสูงในการสื่อสาร รวมทั้งการใช้ในเชิงพาณิชย์ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นดาบสองคม หากไม่มีการควบคุมและการจัดการที่รัดกุมพอ ก็สามารถนำไปใช้ในการก่ออาญากรรมผ่านเครือข่ายการสื่อสารได้เช่นกัน ผู้สังเกตการณ์กล่าว
(ขอขอบคุณมิตรสหายที่หนังสือพิมพ์ “เตื่อยแจ๋” สำหรับข้อมูลประกอบ)