เวียดนามเน็ต - ราคาบุหรี่ที่วางขายในเวียดนามนั้นมีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อหัวของชาวเวียดนามในประเทศ ผู้เข้าร่วมประชุมกล่าวในการประชุมสัมมนาที่จัดโดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ในกรุงฮานอยสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาบุหรี่ที่ถูกเช่นนี้ส่งผลให้นักสูบใช้บุหรี่และซื้อหาบุหรี่ได้ง่ายยิ่งกว่าซื้อผักเสียอีก นายเลหวูแอง (Le Vu Anh) อธิการบดีมหาวิทยาลัยสาธารณสุขกรุงฮานอย กล่าว
นอกจากนั้นราคาบุหรี่ในประเทศ ยังไม่เคยมีการปรับขึ้นมานานกว่า10 ปีแล้ว แต่กลับมีการลดราคาขายบุหรี่ลง 5% ในช่วงระหว่างปี 2538-2549 เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุมกล่าว
ในขณะเดียวกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารายได้ของประชาชนชาวเวียดนามเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าและ GDP ของประเทศก็เพิ่มขึ้นกว่า 80% ด้วยเช่นกัน
สำหรับยี่ห้อบุหรี่ที่ได้รับความนิยม คือยี่ห้อ Vinataba ที่ขายในราคาซองละ 10,000 ด่ง (63 เซนต์) ในปี 2539 แต่ในปี 2549 ขายราคาซองละ 8,500 ด่ง (53 เซ็นต์) เท่านั้น ราคาที่ถูกมากเช่นนี้ส่งผลให้จำนวนสิงห์อมควันในเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในรายงานของปี 2552 องค์การอนามัยโลกระบุว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการสูบบุหรี่สูงที่สุดในโลก โดยมีผู้สูบบุหรี่ที่เป็นเพศชายอยู่ 56.1% และเพศหญิง 1.8%
ในเวียดนามมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 40,000 คนต่อปี และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คนต่อปี ในช่วงก่อนปี 2566
การสำรวจโดยมหาวิทยาลัยสาธารณสุขกรุงฮานอย ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคที่เป็นผลมาจากการสูบบุหรี่ คือ มะเร็งปอด โรคหัวใจ และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ประมาณการได้ว่าอาจจะเกินกว่า 1.1 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 75 ล้านดอลลาร์) ต่อปี
ตัวแทนของธนาคารโลกได้ระบุว่า บุหรี่ยังมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อระดับความยากจนของประเทศ ซึ่งหากประชาชนที่ยากจนในประเทศนำเงินที่ใช้ซื้อบุหรี่ไปซื้ออาหารแทน จะทำให้ประชาชนที่ยากจนกว่า 11.2% หลีกหนีออกจากความยากจนนั้นได้
ดอกเตอร์ฌอง-มาร์ค โอลิเว่ (Jean-Marc Olive) หัวหน้าสำนักงาน WHO ประจำเวียดนามกล่าวว่า การเพิ่มภาษีบริโภคพิเศษในอัตรา 20% ต่อปี สำหรับผลิตภัณฑ์ยาสูบ จะช่วยยับยั้งการสูบบุหรี่ของสิงห์อมควันได้.