แก้แค้นโหดยังฮิต เขมรนิยมสาดน้ำกรดใส่กัน

พนมเปญโพสต์ - ชายหนุ่มวัย 25 ปีกับพนักงานสาวร้านคาราโอเกะอีกคนหนึ่ง เป็นเหยื่อการสาดน้ำกรดรายล่าสุด ซึ่งหลายปีมานี้การสาดน้ำกรดนับเป็นวิธีการแก้แค้นสุดโหด แต่ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายในกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีชู้สาวเพื่อทำให้เหยื่อเสียโฉม ทั้งนี้เป็นการระบุของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานการกุศลที่ช่วยเหลือเหยื่อผู้ประสบเหตุจากน้ำกรดในกัมพูชา (Cambodian Acid Survivors Charity -CASC)

กรณีแรกเกิดขึ้นใน อ.ปัญญาแกร็ก (Ponhea Krek) จ.กำปงจาม ในวันที่ 30 ม.ค. สามีหนุ่มตกเป็นเหยื่อภรรยาสาววัย 21 ที่เอาคืน หลังภรรยาสาวโดนฝ่ายชายตบตีเพราะไม่ยอมให้เงิน 100,000 เรียล (ประมาณ 25 ดอลลาร์) เพื่อไปชมหนังเร่ในหมู่บ้าน

"ภรรยาและลูกสาวอายุ 2 ขวบของผู้เสียหายได้หลบหนีไปหลังจากที่เธอสาดน้ำกรดใส่" สารวัตรตำรวจในพื้นที่ กล่าว

สัปดาห์เดียวกันอดีตพนักงานสาวร้านคาราโอเกะวัย 27 ปี ในเขตอ.รุสสีแก้ว กรุงพนมเปญ ถูกชาย 2 คน ไม่ทราบชื่อบุกเข้าไปทำร้ายถึงบ้าน ก่อนจะสาดน้ำกรดซ้ำ โดยที่ยังไม่ทราบแรงจูงใจ

สองกรณีล่าสุดนี้ทำให้มีเหยื่อสาดน้ำกรดทั้งหมด 6 รายในเดือนเดียวกัน หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน CASC

นายแพทย์มาศแจีย (Meas Chea) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกำปงจาม กล่าวว่าบาดแผลที่เกิดจากน้ำกรดนั้นทำการรักษาให้หายได้ยาก เพราะมันคล้ายกับแผลไฟไหม้ ที่ชั้นผิวหนังถูกทำลาย

สำหรับกรณีสาดน้ำกรดใส่อดีตพนักงานสาวร้านคาราโอเกะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในอ.รุสสีแก้ว กลาวว่า อดีตพนักงานร้านคาราโอเกะ อายุ 27 ปีรายนี้ ถูกชาย 2 คน ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปที่บ้านแล้วสาดน้ำกรดถึง 1 ลิตร โดยเหยื่อรายนี้พักอยู่กับชายที่ระบุว่าเป็นสามีแม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันก็ตาม

"อาจเป็นเพราะความเกลียดชังระหว่างเหยื่อและคนรักของเธอ เพราะเธอติดต่อกับผู้ชายอยู่หลายคน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากในการจับกุมผู้ต้องสงสัย เพราะเราไม่ทราบรูปพรรณสัณฐานหรือรายละเอียดของผู้ชายที่เธอติดต่อด้วย " เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าว

"ผมสงสัยว่าคนที่สาดน้ำกรดใส่แฟนของผมอาจเป็นอดีตสามีของเธอ" ชายที่อ้างว่าเป็นสามีของเหยื่อซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ กล่าว พร้อมชี้แจงเพิ่มอีกว่า "อดีตสามีของเธอขู่ให้เธอหยุดติดต่อกับผม ว่าถ้าหากเธอไม่หยุดการติดต่อก็จะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ"

นักสังคมสงเคราะห์ของ CASC กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจำนวนการทำร้ายร่างกายกันด้วยน้ำกรดที่บันทึกไว้จะลดลงจาก 33 รายในปี 2551 เหลือเพียง 12 ราย ในปี 2552 แต่ล่าสุดจำนวนผู้เคราะห์ร้ายเพราะน้ำกรดกลับเพิ่มขึ้นมาอีกระลอก จากที่บันทึกไว้ในเดือนธ.ค. 2552 ที่ผ่านมา มีเหยื่อสาดน้ำกรดจำนวน 5 ราย แต่ในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 6 ราย