ASTVผู้จัดการรายวัน-- เจ้าพนักงานสอบสวนกรณีทุจริตโครงการทางด่วนนครโฮจิมินห์ได้ ส่งฟ้องอีก 1 คดี นายฮวี่งหง็อกสี (Huynh Ngoc Si) อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูง ฐานะรับสินบนจากบริษัทญี่ปุ่นซึ่งชนะการประกวดราคาเป็นบริษัทปรึกษา ในโครงการก่อสร้างมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์
นายหง็อกสีถูกศาลตัดสินวันที่ 25 ก.ย.ปีที่แล้ว ลงโทษจำคุก 3 ปี ฐาน "ใช้อำนาจโดยมิชอบ" ในคดีที่ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นระงับให้การช่วยเหลือแก่รัฐบาลเวียดนาม และงดการเบิกจ่ายโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ในเวียดนามเป็นเวลาหลายเดือนในช่วงปลายปี 2551 ถึงต้นปี 2552
นายเลกว๋า (Le Qua) อดีตผู้ช่วยของนายสีถูกตัดสินใจคุก เป็นเวลา 2 ปีในความผิดเดียวกัน
"รับสินบน" จึงเป็นคดีที่สอง ที่ทางการฟ้องร้องเอาผิดกับอดีตรองผู้อำนวยการสำนักโยธาและก่อสร้างแห่งนครใหญ่ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ
นายสีกับนายกว๋าได้ให้บริษัทพีซีไอ (Pacific Consultants International) เช่าอาคารหลังหนึ่งในเขตอำเภอที่ 3 ของโฮจิมินห์เพื่อเป็นสำนักงานโดยจ่ายค่าเช่าเดือนละ 5,000 ดอลลาร์ คดีนี้จึงรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า "กรณีทุจริตพีซีไอ"
บริษัทนี้จ่ายค่าเช่าเป็นเงินทั้งสิ้น 80,000 ดอลลาร์ในช่วงปี 2544-2545 แต่นายสีกับนายกว๋านำเงินจำนวนดังกล่าวไปแบ่งปัน โดยไม่ส่งแจ้งให้คณะกรรมการบริหารโครงการได้รับทราบ ที่อาคารดังกล่าวเป็นของทางราชการ ที่ให้ใช้ในโครงการก่อสร้างที่บุคคลทั้งกำกับดูแล
การตัดสินของศาลในเดือน ก.ย.ปีที่แล้วได้สร้างความไม่พอใจแก่สาธารณชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังสาวไม่ถึงการทุจริตที่หยั่งรากลึกยิ่งกว่านั้น ทั้งๆ ที่สื่อมวลชนในญี่ปุ่นได้เปิดโปงเรื่องนี้อย่างล่อนจ้อน และก่อนหน้านั้นศาลในกรุงโตเกียวได้ตัดสินลงโทษอดีตผู้บริหารของบริษัท PCI ฐาน "ติดสินบนเจ้าหน้าที่ทางการเวียดนาม"
หลังศาลพิพากษาคดีแรกได้ 4 เดือน ในเดือน ม.ค.นี้ กระทรวงความมั่นคงภายในจึงได้ประกาศ จะสอบสวนสืบสวนเพื่อดำเนินคดี "รับสินบน" นายสีและนายกว๋า ในโครงการที่มีมูลค่า 760 ล้านดอลลาร์ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) รายงาน
เจ้าหน้าที่บริษัทนี้ได้สารภาพต่อศาลญี่ปุ่นว่า พวกเขาได้ติดสินบน "เจ้าหน้าที่เวียดนาม" เป็นเงิน 820,000 ดอลลาร์ ระหว่างปี 2546-2549 เพื่อให้ชนะการประกวดราคาและได้งานที่ปรึกษาสำหรับโครงการ 760 ล้านดอลลาร์ที่ใช้เงินช่วยเหลือจากญี่ปุ่นผ่านธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศหรือ "เจบิค" (Japan Bank for International Cooperation)
ปลายปีที่แล้วสำนักงานอัยการญี่ปุ่นได้ส่งเอกสารประกอบการพิจารณาคดีจำนวน 3,050 หน้าให้แก่ทางการเวียดนาม ทั้งที่เป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ และ สำนักงานอัยการประชาชนเวียดนาม ประกาศปลายปีที่แล้วว่าเพิ่งแปลเอกสารดังกล่าวออกมาเป็นภาษาเวียดนามแล้วเสร็จสมบูรณ์
หากพบว่ามีความผิดฐานรับสินบน นายสีกับนายกว๋ามีโทษจำคักตั้งแต่ 6 ปี จนถึงโทษประหารชีวิต ตามกฎหมายอาญาเวียดนาม
พนักงานสอบสวนให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ของทางการว่า ได้พบหลักฐานใหม่ๆ อีกจำนวนหนึ่งที่ส่อว่า นายสีได้รับเงิน 260,000 ดอลลาร์จากบริษัทพีซีไอในเดือน พ.ค.2546 ทำให้สามารถตั้งข้อหา "รับสินบน" กับเจ้าหน้าที่คนนี้ได้
หลังถูกจับกุมนายสีถูกถอดออกจากสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และ พ้นจากทุกตำแหน่งในรัฐบาล
ในเดือน ธ.ค.2551 รัฐบาลญี่ปุ่นได้หยุดให้การช่วยเหลือด้านการเงินแก่เวียดนามซึ่งเป็นๆไปตามกฎหมายของประเทศนั้น จนกว่าฝ่ายเวียดนามจะดำเนินมาตรการอย่างเพียงพอในการกำจัดการคอร์รัปชั่นจากโครงการ
พนักงานสอบสวนให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ของทางการว่า ได้พบหลักฐานใหม่ๆ อีกจำนวนหนึ่งที่ส่อว่า นายสีได้รับเงิน 260,000 ดอลลาร์จากบริษัทพีซีไอในเดือน พ.ค.2546 ทำให้สามารถตั้งข้อหา "รับสินบน" กับเจ้าหน้าที่คนนี้ได้
หลังถูกจับกุมนายสีถูกถอดออกจากสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และ พ้นจากทุกตำแหน่งในรัฐบาล
ในเดือน ธ.ค.2551 รัฐบาลญี่ปุ่นได้หยุดให้การช่วยเหลือด้านการเงินแก่เวียดนามซึ่งเป็นๆไปตามกฎหมายของประเทศนั้น จนกว่าฝ่ายเวียดนามจะดำเนินมาตรการอย่างเพียงพอในการกำจัดการคอร์รัปชั่นจากโครงการ
นอกจากจะมีความคืบหน้าในกรณีทุจริต PCI แล้ว วันจันทร์ (25 ม.ค.) ที่ผ่านมา ศาลกรุงฮานอยยังมีคำพิพากษาจำคุกอดีตเจ้าหน้าที่ระดับรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 5 ปี ฐานยักยอกเงินจากโครงการ "อีกัฟเวิร์นเมนต์" (E Government) ซึ่งเป็นโครงการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์เชื่อมหน่วยราชการต่างๆ ทั่วประเทศ
การทุจริตทำให้โครงการดังกล่าวไม่บรรลุผล เมื่อติดตั้งแล้วเสร็จไม่สามารถใช้งานได้จริง รัฐบาลได้สั่งยกเลิกโครงการนี้ในเดือน เม.ย.2550 และเริ่มทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องจนกระทั่งวันจันทร์ที่ผ่านมา มีผู้ถูกศาลตัดสินลงโทษรวม 22 คน เกือบทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในหลายระดับ
นายหวูดี่งทวน (Vu Dinh Thuan) รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลโครงการ ถูกตัดสินจำคุก 5 ปีฐานยักยอกเงิน 14,900 ดอลลาร์ และ สร้างความเสียหายให้แก่โครงการเป็นเงินอีก 252,000 ดอลลาร์ในช่วงปี 2544-2548
นายเลืองเกอเซิน (Luong Co Son) เลขานุการของโครงการ มีความผิดฐานยักยอกเงิน 40,552 ดอลลาร์ และ นางเหวียนถวิห่า (Nguyen Thuy Ha) ผู้ อำนวยการบริษัทไอทีที่ชนะการประกวดราคาติดตั้งโครงการกระทำผิดฐานติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ถูกลงโทษจำคุกคนละ 6 ปี
จำเลยที่เหลือถูกตัดสินจำคุกโดยให้รอลงอาญาตั้งแต่ 18 เดือน จนถึงจำคุกคนละ 30 เดือน เตื่อยแจ๋กล่าว.