ผลประกอบการเวียดนามแอร์ไลนส์ลดลงแต่ยังกำไร

เอเอฟพี - ผลประกอบการของสายการบินเวียดนามในปี 2552 มีกำไรลดลง 42% เทียบปีต่อปีเนื่องจากผลกระทบของภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส H1/N1

ผลกําไรก่อนหักภาษีตกลงเหลือ 8.1 ล้านดอลลาร์ในปี 2552 ลดต่ำกว่าปี 2551 ที่ทำกำไรได้ 14 ล้านดอลลาร์ เวียดนามแอร์ไลนส์ยังได้อ้างถึงการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ (H1/N1) ที่เป็นเหตุให้ผลกำไรลดลง แต่ทางสายการบินยังได้ระบุว่า ผลกำไรในสายการบินอื่นๆ ทั่วโลกต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันในปี 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของสายการบินต่างๆ ในโลก

"เวียดนามแอร์ไลนส์ยังคงทำกำไรได้อยู่ ขณะเดียวกันสายการบินก็ยังดำเนินการเพิ่มขยายฝูงบินและเปิดเส้นทางบินไปยังปลายทางใหม่" รายงานของสายการบินแห่งนี้ระบุ

ผลประกอบการทั้งปีมีมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์ เทียบกับรายได้ที่เคยทำไว้ในปี 2551 ที่มีจำนวน 1,560 ล้านดอลลาร์ แต่รายรับจากการประกอบการทั้งปี 2552 ที่ผ่านมาก็ยังเกินเป้าที่ตั้งไว้ถึง 4%

รายงานของสายการบินเวียดนามยังล่าวอีกว่า ปีที่แล้วได้ให้บริการผู้โดยสารแล้วกว่า 9.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 8.8 ล้านคนในปี 2551 ในนั้น 1 ใน 3 ของผู้โดยสารทั้งหมดเป็นผู้โดยสารจากต่างประเทศ และในปี 2553 นี้ ได้ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารไว้ที่ 11 ล้านคน

ตามรายงานของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association - IATA) ความต้องการผู้โดยสารทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในปี 2553 นี้ หลังจากผู้โดยสารลดลงมากในช่วงปี 2552 ที่ผ่านมาสำหรับอุตสาหกรรมการบินเนื่องจากหลายปัจจัย

ส่วนหุ้นในสายการบินยักษ์ใหญ่ของเอเชียอย่างสายการบินเจแปนแอร์ไลนส์ (JAL) ตกลงอย่างมากในสัปดาห์นี้หลังจากบรรดานักลงทุนทราบข่าวว่าสายการบินกำลังจะยื่นขอความคุ้มครองต่อศาลตามกฎหมายล้มละลายในสัปดาห์หน้า

สายการบินเวียดนามมีประกาศในวันพุธ (13 ม.ค.) จะเปิดให้บริการเส้นทางบินตรงไปยังโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากที่เคยใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกับเจแปนแอร์ไลนส์ก่อนหน้านี้.