xs
xsm
sm
md
lg

ช้ากว่านัด “เกดสะหนา” แรงจัดเวียดนามตายแล้ว 22

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#FF0000>ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ขยันอดทนทำกินและไม่กลัวตาย ชายคนนี้ฝ่าพายุลมแรงมองหาเศษไม้ริมทางหลวงสายเหนือ-ใต้ ในเขตนครด่าหนัง (Danang) เพื่อเก็บกลับบ้านไปทำฟืน ยังเข้าไม่ถึงฝั่งเสียด้วยซ้ำไต้ฝุ่นเกดสะหนา (Ketsana) ทำให้ชาวเวียดนามเสียชีวิตไปแล้ว 22 คน  </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ช้ากว่าที่พยากรณ์เอาไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจะเข้าถึงฝั่ง แต่กระนั้นไต้ฝุ่นเกดสะหนา (Ketsana) ก็ได้คร่าชีวิตของชาวเวียดนามไปแล้วไม่น้อยกว่า 22 คน ในวันจันทร์และวันอังคารนี้ หลังจากพัดถล่มเกาะฟิลิปปินส์สร้างความเสียหายสุดคณานับ มีผู้เสียชีวิตไป 240 คน

"การนับอย่างเป็นทางการของเรา จนถึงบ่ายวันอังคาร (29 ก.ย.) นี้ไต้ฝุ่นทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย" สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำกล่าว ของเจ้าหน้าที่คณะกรรมการควบคุมพายุและอุทกภัยแห่งชาติ

"เกดสะหนา" เป็นคำในภาษาลาว เป็นชื่อไม้มงคลที่มีกลิ่นหอมและมีราคาแพง (ไม้กฤษณา) ไต้ฝุ่นลูกนี้ พัดเข้าถึงฝั่งเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ระหว่าง จ.กว๋างนาม (Quang Nam) กับ จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ช้าไป 6 ชั่วโมง จากที่หลายสำนักพยากรณ์ล่วงหน้าเอาไว้เวลา 04.00 น.วันเดียวกัน

เจ้าหน้าที่ที่ไม่ประสงค์ให้ระบุชื่อบอกกับเอเอฟพีว่า จ.กงตูม (Kon Tum) ในเขตที่ราบสูงภาคกลางซึ่งเป็นเขตสวนกาแฟใหญ่ที่สุดของประเทศ มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดเมื่อนับรายจังหวัด

ไต้ฝุ่นกำลังแรงจัดลูกล่านี้ทำให้ไฟฟ้าดับกินบริเวณกว้างหลายจังหวัด ทางการเวียดนามต้องอพยพราษฎรออกจากพื้นที่เสี่ยงเกือบ 170,000 คน และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะมีความเร็วลมในระดับพายุโซนร้อนลูกหนึ่ง เกดสะหนาได้ทำให้ชาวฟิลิปปินส์ราว 400,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย

ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีกล่าวว่า เกดสะหนา ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายอาณาบริเวณของนครด่าหนัง (Danang) กับนครเหว (Hue) ที่อยู่เหนือขึ้นไป ราษฎรท้องถิ่นต่างๆ ต้องใช้เรือแจวในการสัญจรแทนพาหนะชนิดอื่นๆ ที่เคยครองท้องถนน ขณะที่ต้นไม้หักโคล่นลงในลำน้ำหอม (Huong) ของเมืองมรดกโลก

น้ำท่วมบ้านเรือนของราษฎรสูงถึงระดับเข่า ขณะที่นายเหวียนหง็อกเทียน (Nguyen Ngoc Thien) ประธานคณะกรรมการประชาชน จ.เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) กล่าวว่า ทางรถไฟบางช่วงจมอยู่ใต้น้ำ 10-15 เซนติเมตร มีผู้โดยสารกว่า 100 คน ติดอยู่ที่สถานีรถไฟของเมืองนี้

สิ่งที่ทำให้ทางการท้องถิ่นเป็นกังวลก็คือ ฝนที่ตกอย่างหนักอาจจะทำให้ ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อขึ้นท่วมเช่นเดียวกับระดับน้ำทะเล
<bR><FONT color=#FF0000>ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ในวิกฤติมีโอกาส ชายคนนี้ยืนรอที่ริมทางหลวงสายเหนือ-ใต้ ในเขตนครด่าหนังเช่นเดียวกัน คอยให้คลื่นซัดเศษไม้เข้าฝั่ง เก็บรวบรวมเพื่อนำกลับบ้านไปทำฟืน ไต้ฝุ่นเกดสะหนาขึ้นฝั่งในภาคกลางเวียดนามเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน มีผู้เสียชวิตแล้ว 22 คน </FONT></bR>
ภาพที่เผยแพร่ทางทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นต้นไม้หักโค่นระเกะระกะตามริมถนนหลายสายในนครเหว เศษแผ่นเหล็กแผ่นสังกะสี กระจายอยู่ตามท้องถนน

เมืองโฮยอาน (Hoi An) เมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งใน จ.กว๋างนาม น้ำท่วมขึ้นสูงในเจตตัวเมืองเก่า มื่อครั้งไต้ฝุ่นช้างสารพัดถล่มในปี 2549 โฮยอานจมน้ำเป็นเวลาหลายวัน

สายการบินเวียดนามได้ยกเลิกเที่ยวบินไปนครด่าหนังกับนครเหว ตั้งแต่บ่ายวันจันทร์ สายการบินเจ็ตสตาร์แปซิฟิก ก็ยกเลิกเที่ยวบินไปด่าหนัง กับนครโฮจิมินห์เช่นเดียวกัน

สื่อในเวียดนามรายงานว่าเกดสะหนา ทำให้สายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 กิโลโวลต์ในภาคเหนือหักโค่น ทำให้สูญเสียพลลังงานไฟฟ้าไปไม่ต่ำกว่า 500 กิโลวัตต์

ทางการทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นต่างๆ ได้ระดมทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายพันคน พร้อมรถสายพานลำเลียงพล กับรถหุ้มเกราะของกองทัพ ออกช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ ที่หลบหนีจากพายุและอุทกภัย

องค์การควบคุมอุทกภัยและพายุแห่งชรติกล่าวว่า สองวันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ได้อพยพราษฎรออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว 168,585 คน.

ไต้ฝุ่นเกดสะหนายังไม่พ้นจากเวียดนาม พายุอีก 2 ลูก ได้ก่อตัวขึ้นอีกแล้วในแปซิฟิกและอาจจะทวีความแรงขึ้นภายในวันสองวันข้างหน้า เจ้าหน้าที่เวียดนามกล่าว.
<bR><FONT color=#FF0000>ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ไต้ฝุ่นเกดสะหนา ยังเข้าไม่ถึงฝั่ง แต่ฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมถนนหลายสายในนครด่าหนัง กิ่งไม้หัก ต้นไม้โค่นลงขวางถนนหลายสาย พาหนะขนาดเล็กลุยต่อไปไม่ไหว ต้องจูงกัน </FONT></bR>
<bR><FONT color=#FF0000>ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ผลงานของไต้ฝุ่นเกดสะหนา ยังเข้าไม่ถึงฝั่ง แต่ฝนที่ตกหนักทำให้ต้นไม้ริมทางหักโค่นลงกีดขวางการจราจรตามท้องถนนหลายสายในนครด่าหนัง ไม่ต่างกับในอีกหลายเมืองและท้องถิ่นต่างๆ ในหลายจังหวัดภาคกลางเวียดนาม   </FONT></bR>
<bR><FONT color=#FF0000>ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ดูเผินๆ นึกว่าเป็นชาวนากำลังพยายามกอบกู้ผลผลิตอะไรสักอย่าง แต่ที่ไหนได้เป็นชาวบ้านใน จ.กว๋างจิ (Quang Tri) ทางภาคกลางตอนบน ลุยลงไปในนาข้าว เพื่อเก็บเศษป้ายโฆษณาพลาสติกขนาดใหญ่ ที่ถูกพลังส่วนหน้าของไต้ฝุ่นเกดสะหนาพัดทำลาย จนพังพิน่าศ </FONT></bR>
<bR><FONT color=#FF0000>รถขี่เรือบ้างจะเป็นไรไป--ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 เจ้าของจักรยานยนตร์รายหนึ่งลุยกลับไม่ถึงบ้าน ต้องว่าจ้างเรือให้นำพาหนะคู่ชีพล่องไปตามถนนที่เปี่ยมน้ำสายหนึ่งในย่านใจกลางนครเหว (Hue) เมืองหลวงเก่าของเวียดนามมีสิทธิ์จมน้ำเหมือนเมื่อปี 2549 ครั้งไต้ฝุ่นช้างสารพัดกระหน่ำ </FONT></bR>
<bR><FONT color=#FF0000>ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 เหตุการณ์เดียวกันกับภาพข้างบน ทีมเดียวกันกำลังจัดเตรียมนำมอเตอร์ไซค์ขึ้นเรือ เพื่อนำกลับบ้าน ไต้ฝุ่นเกดสะหนาทำให้การจราจรในนครเหวเป็นอัมพาต ย่านนอกเมืองทางรถไฟก็จมน้ำ แต่นี่เป็นเพียงวันแรกและเป็นเพียงการ เผาหลอก ของจริงต้องคืนวันอังคารนี้ </FONT></bR>
<bR><FONT color=#FF0000>ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ฝนกระหน่ำลงมา 2 วันไม่ลืมหูลืมตา นครเหวเมืองหลวงเก่าเวียดนามยุคราชวงศ์จมน้ำเสียแล้ว อันเป็นอิทธิฤทธิ์ของไต้ฝุ่นเกดสะหนา ปี 2549 เมื่อไต้ฝุ่นช้างสารอาละวาด ย่านเมืองเก่าน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรเกือบมิดหลังคา </FONT></bR>
กำลังโหลดความคิดเห็น