เวียดนามเอ็กซ์เพรส -- ทุกฝ่ายกำลังเป็นห่วงค่านิยมที่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาสมัครประกวดความสวยความงาม จนกระทั่งทำให้การเรียนต้องล่าช้า ขณะที่โรงเรียนได้แต่ทำตาปริบๆ เพราะไม่มีอำนาจแทรกแซง และเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมเอาใจใส่ต่อปัญหานี้
แต่ละปีจะมีการประกวดความสวยความงามหลากหลายเวที ทั้งการประกวด “ทูตโรงเรียน” (School Envoy) มิสฮอตวีทีน (Miss Hot VTeen) หรือ มิสทีนเวียดนาม (Miss Teen Vietnam) ซึ่งได้พบว่าในแต่ละปีมีนักเรียนสาวในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายนับหมื่นๆ เข้าร่วมในขบวนการนี้
การประกวดความสวยความงามแม้จะมีหลากหลายเวที แต่ก็มีเกณฑ์คล้ายๆ กัน คือ มองหาหนุ่มสาววัยรุ่นหน้าตาดี หุ่นดี และมีความสามารถในการแสดงออก
แต่ปัญหาก็คือ การประกวดมีกระบวนการที่ยาวนานมาก ทำให้นักเรียนไม่เป็นอันเรียน ต้องใช้เวลาฝึกซ้อม และครุ่นคิดเป็นกังวลกับการประกวดมากกว่าการเรียน
การประกวด “วัยดิ้น” (Dancing Contest for Teenagers 2009) ปีนี้ซึ่งจัดเป็นที่ 3 ติดต่อกัน มีวัยรุ่นวัยเรียนส่งทีมไปร่วมแข่งขันถึง 200 ทีม ทำให้คลับของการประกวดมีสมาชิกเพิ่มเป็นเกือบ 10,000 คนในขณะนี้
การประกวดมิสทีนเวียดนาม 2009 เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.นี่คือ เวทีประกวดใหญ่โตที่สุดสำหรับสาววัยรุ่นของประเทศ รอบสุดท้ายจะจัดขึ้นในนครโฮจิมินห์ต้นเดือนหน้า
การประกวด “ทูตโรงเรียน” เพื่อหาสาวสวยและหนุ่มหล่อ เป็นตัวแทนของโรงเรียนทั่วประเทศ เริ่มมาหลายเดือนแล้ว และจะตัดสินรอบสุดท้ายในเดือน พ.ย.
การประกวด Hot VTeen 2009 เริ่มขึ้นวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่รอบสุดท้ายจะมีขึ้นในเดือน ม.ค.ปีหน้า และระหว่างนี้ผู้เข้าประกวดจะต้องร่วมทำกิจกรรมหลายต่อหลายอย่าง
ในแต่ละปียังมีการประกวดสาวงาม เพื่อเป็นตัวแทนโฆษณาตัวแทนเครื่องสำอางกับสินค้าสำหรับวัยรุ่นอีกหลายยี่ห้อ การประกวดแต่ละครั้งกินเวลายาวนานไม่ต่างกัน
ผู้ที่เป็นกังวลที่สุดไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพ่อแม่ผู้ปกครอง ขณะที่ครูผู้สอนกับโรงเรียนก็ต้องแก้ปัญหาให้กับนักเรียนที่สมัครเข้าประกวด
"นางเติม" ผู้ปกครองรายหนึ่งกล่าว หากเธอรู้มันมีกระบวนการที่ยาวนานเช่นนี้ก็จะไม่ให้ลูกสาวที่กำลังเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 เข้าประกวดอย่างแน่นอน เพราะต้องเดินทางบ่อยๆ แม้ว่าผู้จัดจะได้ขออนุญาตจากโรงเรียนให้แล้วก็ตาม
ผู้ปกครองรายนี้กล่าวอีกว่า การประกวดได้ทำให้ลูกสาว ทั้งเต้น ทั้งร้อง หัดพูด หัดเดิน ทุกวัน แทบจะไม่ได้ทำอย่างอื่นๆ การที่จะชักชวนให้หันมาเอาใจใส่ศึกษาเล่าเรียนทำได้ยากเสียแล้ว
การประกวด "ทูตโรงเรียน" มีการระดมผู้สมัครจากนครและจังหวัดต่างๆ เพื่อจะได้ "ตัวแทน" ของโรงเรียนทั้งประเทศอย่างสมจริง และ ฝ่ายบริหารของโรงเรียนต่างๆ ได้แต่ทำตาปริบๆ เพราะไม่มีอำนาจจะไปแทรกแซงได้
นายเหวียนยวีฟุก (Nguyen Duy Phuc) ผู้อำนวยการโรงเรียนใน จ.ด่งนาย (Dong Nai) กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการฯ ควรจะดำเนินการเรื่องนี้เสียเอง
นายฟุกมองว่าการประกวดของเด็กๆ ยังพอมีเนื้อหาสาระอยู่บ้าง นักเรียนคนหนึ่งของโรงเรียนแห่งนี้ คือ เหวี่ยนจาง (Huyen Trang) ได้เป็นเจ้าของมงกุฎมิสทีนเวียดนามเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเธอได้รับประโยชน์หลายอย่าง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแรงกระตุ้นให้รุ่นน้องจำนวนมากเอาอย่าง
เรื่องนี้บรรดาคุณครูยังคงถกเถียงกันไม่จบ มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทุกคนเห็นพ้องกันเรื่องหนึ่งคือ หน้าที่สำคัญของนักเรียนก็คือการศึกษาเล่าเรียน ถ้าหากจะมีการประกวดอะไรสักอย่างก็ควรจะใช้เวลาให้สั้นลง และลดกิจกรรมลงเหลือน้อยที่สุด
บรรดาคุณครูเห็นพ้องกันว่า กิจกรรมบันเทิงที่มีอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายวิดีโอ ถ่ายภาพนิ่ง หรือ การแสดงต่างๆ เป็นผลในทางลบต่อนักเรียนที่เข้าประกวดอย่างแน่นอน.