ASTVผู้จัดการออนไลน์—ทหารฝ่ายกัมพูชาได้ทำการผลักดันจนกระทั่ง ฝ่ายไทยต้องถอนทหารออกจากเนิน 600 บนเทือกเขาดงรักแล้ว หลังจากยึดพื้นที่มาแรมเดือน หนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพ (Koh Santepheap) รายงานเรื่องนี้โดยอ้างการบอกเล่าของนายทหารที่ประจำอยู่แนวหน้าด้านโอจักจะแรง (O' Chak Chreng)
หนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนรัฐบาลฉบับนี้ ไม่ได้รายงานว่าฝ่ายกัมพูชา "ผลักดัน" ทหารไทยออกจากพื้นที่ด้วยวิธีการใด
เกาะสันติภาพกล่าวว่า การยึดครองเนิน 600 ของทหารไทย ในช่วงต้นเดือน พ.ค.สร้างความตกอกตกใจให้แก่ฝ่ายกัมพูชาพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายไทยได้เสริมกำลังเข้าไปจากเดิม 20 คนจนกลายเป็น 30
แต่ข้อเท็จจริงก็คือทหารไทยอยู่ในพื้นที่นี้มานานเกือบปีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2551 เมื่อไทย "เริ่มรุกรานดินแดนกัมพูชาด้านปราสาทพระวิหาร" เกาะสันติภาพกล่าว
ในช่วงปีที่แล้วฝ่ายกัมพูชามีเพียงตำรวจชายแดนที่เข้าลาดตระเวนในพื้นที่ แต่ปีนี้ทหารจากกองพันที่ 8 (ไม่ทราบกองพลที่สังกัด) ได้เข้าพื้นที่แทน และได้พบว่าทหารไทยยึดครองเนิน 600 เอาไว้ จึงได้เจรจามาหลายครั้งขอให้ถอนออกไป
"เรายังตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ -- ทหารไทยทั้ง 10 คนจะต้องถอนออกไป นี่คือประเด็นที่มีการเจรจากันเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน และในที่สุดทหารไทยก็ยอมถอน" เกาะสันติภาพรายงานอ้างคำพูดของนายทหารในพื้นที่ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใด และ ทำไมจึง “ผลักดัน” ให้ทหารไทยถอนออกไปเพียง 10 นาย
เกาะสันติภาพรายงานเรื่องนี้ในสัปดาห์ปลายเดือน พ.ค.อ้างว่า ทหารไทย 20 นาย ได้ตั้งค่ายอยู่บนเนินและไม่ยอมถอน แม้จะมีการเจรจาระหว่างนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาของทั้งสองฝ่ายแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม พล.ท.ณรงค์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพกองทัพภาคที่ 2 ของไทยให้สัมภาษณ์สัปดาห์ที่แล้วยืนยันว่า ทหารไทยลาดตระเวนอยู่ในดินแดนของไทยด้านนั้นมานานนับปีแล้ว อาจจะเป็นความเข้าใจผิดของสื่อกัมพูชา ที่กล่าวหาว่าไทยยึดครองดินแดนของพวกเขา
อาณาบริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากเขตปราสาทพระวิหารไปทางทิศตะวันตกราว 7 กิโลเมตร เกาะสันติภาพรายงานก่อนหน้านี้ว่า ทหารกัมพูชาได้ไปตั้งมั่นอยู่เชิงเขา ห่างจากจุดที่ตั้งของทหารไทยบนเนิน 600 ราว 1 กม. เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน และผู้บังคับบัญชาหลายระดับได้พยายามเจรจาขอให้ทหารไทยถอนออกไป
ชายแดบริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่ยังไม่เคยมีการปักปันเขตแดนชัดเจน แต่ตามกฎหมายระหว่างประเทศนั้น เนิน 600 ก็คือ จุดสูงของสันปันน้ำ อันเป็นจุดแบ่งเขตแดนทางธรรมชาติ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นเขตที่สูงซึ่งฝ่ายกัมพูชาจะต้องปีนขึ้นไปตามความลาดชันของเชิงเขาทางฝั่ง “เขมรต่ำ” ไม่ต่างไปจากชายแดนด้านพระวิหาร
ยังไม่สามารถขอความเห็นหรือสอบถามข้อเท็จจริงใดๆ จากผู้บังคับบัญชาของฝ่ายไทยที่รับผิดชอบในพื้นที่ได้ขณะนี้.