ASTVผู้จัดการออนไลน์-- นางฮิลลารี รอดแฮม คลินตัน (Hillary Rodham Clinton) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ส่งสาสน์ฉบับหนึ่งจากกรุงวอชิงตันดีซี อวยพรชาวกัมพูชาเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ที่มีลักษณะพิเศษอย่างยิ่ง
"ในนามของประชาชนชาวอเมริกัน ข้าพเจ้าขออำนวยพรให้ประชาชนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาเนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่.." รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในสาสน์ลงวันศุกร์ที่ 10 เม.ย.2552
"ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ได้มีความก้าวหน้าสำคัญจำนวนมากในความสัมพันธ์ของพวกเรา รวมทั้งการแวะเยี่ยมเยือนด้านมนุษยธรรมของเรือ (รบ) สหรัฐฯ ความตกลงใหม่เกี่ยวกับโครงการความช่วยเหลือในการพัฒนาเศรษฐกิจและการบริหารด้วยการใช้กฎหมาย และ อาสาสมัครเพื่อสันติภาพเข้าไปปฏิบัติงานใน 11 จังหวัด.."
"ข้าพเจ้ามองไปยังปีข้างหน้าในช่วงที่สองประเทศพวกเรามีโอกาสอันดียิ่งที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี เช่นเดียวกันกับการร่วมกันทำงานในขอบเขตที่ต่างได้รับประโยชน์ พวกเราได้ประเมินค่าสูงต่อคำมั่นของกัมพูชาในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและระบอบประชาธิปไตย.."
"เนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขออำนวยพรถึงประชาชนกัมพูชาด้วยความปรารถนาดีให้มีความเจริญรุ่งเรืองและมีสันติ"
เมื่อเดือนที่แล้ว รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแวะเยือนอินโดนีเซียเพียงประเทศเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศอิสลามที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และ ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า เคยศึกษาอยู่ในประเทศนี้เมื่อเยาว์วัย
สำหรับกัมพูชา สหรัฐฯ ได้ให้การช่วยเหลือรัฐบาลประเทศนี้พัฒนาประเทศในหลายด้าน ขณะที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก รวมทั้งด้านกลาโหมด้วยซึ่ง ปี 2551 มีเรือรบสหรัฐฯ 2 ลำไปแวะเยือนที่เมืองท่าสีหนุวิลล์ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์
ต้นปีที่แล้วสหรัฐฯ ได้เปิดสำนักงาของเอฟบีไอ หรือ สำนักงานสอบสวนสืบสวนกลาง ขึ้นในกรุงพนมเปญ ในภารกิจป้องกันการก่อการร้ายสากล กองทัพสหรัฐฯ ยังมอบรถบรรทุกทหารที่ใช้แล้วเพิ่มเติมให้กองทัพกัมพูชาอีกครั้งหนึ่ง
ระหว่างการเผชิญหน้ากับฝ่ายไทยที่ชายแดนด้านพระวิหาสร สหรัฐฯ ยังส่งเต็นท์สนามช่วยเหลือเพื่อให้ทหารกัมพูชาในแนวหน้าได้ใช้อีกด้วย
ย้อนหลังไปในปี 2550 สหรัฐฯ ได้เริ่มให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่รัฐบาลกัมพูชาเป็นครั้งแรก หลังจากที่เคยช่วยโดยมอบงบประมาณผ่านองค์กรเพื่อการพัฒนาของภาคเอกชนหรือองค์การระหว่างประเทศ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มเชฟรอน (Chevron Corp) ประกาศค้นพบน้ำมันดิบในเขตทะเลอ่าวไทยของกัมพูชาในต้นปี 2548.