ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% ในปีที่ผ่านมา รวมเป็น 4.3 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ 4.8-5 ล้าน โดยเศรษฐกิจถดถอยในระดับโลกได้เป็นปัญหาสำคัญ ทำให้ความสนใจต่อเวียดนามลดลง
เดือน ธ.ค.ที่เคยเป็นเดือนสุดยอดแห่งการท่องเที่ยวของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงเดือนแห่งเทศกาลคริสต์มาส ที่ผ่านมา กลับเงียบเหงาไม่คึกคัก นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าน้อยลงเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2550
นักท่องเที่ยวที่หายหน้าไปมากที่สุด ได้แก่ ชาวญี่ปุ่น เกาหลี กับไต้หวัน ตามลำดับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ชาวจีน และ ชาวไทย จำนวนเพิ่มขึ้นคือ 14.6%, 13.1% และ 9.6% ตามลำดับ สำนักข่าวเวียดนาม (วีเอ็นเอ) รายงานโดยอ้างตัวเลขของสำนักงานใหญ่สถิติ (General Statistics Office)
องค์การบริหารการท่องเที่ยวเวียดนาม หรือ VNAT (Vietnam National Administration of Tourism) กล่าวว่า วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นสาเหตุหลักทำให้การขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้ลดลง นอกเหนือจากปัญหาภายใน ซึ่งรวมทั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อในอัตราสูง ระบบสาธารณูปโภค ถนนหนทางที่ไม่พร้อม
เวียดนามยอมรับว่า การท่องเที่ยวยังมีปัญหาคุณภาพในการให้บริการ รวมทั้งการขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์ในด้านนี้อีกด้วย
“ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ มีส่วนทำให้ความน่าสนใจของเวียดนามลดลงไม่มากก็น้อย” เจ้าหน้าที่ VNAT กล่าวกับวีเอ็นเอ
เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ กระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว ได้ให้คำมั่นจะช่วยเหลือท้องถิ่นต่างๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ขยายแหล่งท่องเที่ยวออกสู่ชายทะเล และเกาะต่างๆ อย่างกว้างขวาง เชื่อมต่อการท่องเที่ยวเข้ากับการบินกับธุรกิจนำเที่ยวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น วีเอ็นเอ กล่าว
เจ้าหน้าที่ VNAT กล่าวว่า ในปี 2552 นี้ จะพยายามอย่างยิ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ชาวเกาหลี ญี่ปุ่น จีน และ อเมริกัน ให้เข้าไปเที่ยวเวียดนามมากขึ้น จะมีการเปิดแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลและเกาะต่างๆ เชื่อมกับ กัมพูชา ไทย และอีกด้านหนึ่งไปยังจีนกับสิงคโปร์ โดยจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแขนงใหม่นี้อย่างทั่วถึง
กำลังมีการจัดการประชุมและนิทรรศการ ASEAN Tourism Forum (ATF) ขึ้นในกรุงฮานอยระหว่างวันที่ 5-12 ม.ค.ศกนี้ เพื่อหาทางฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจขาลงในระดับโลก วีเอ็นเอ กล่าว
