ASTVผู้จัดการออนไลน์-- สองสาวงามจากสองประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังประชันความงามบนเวทีมิสเวิลด์ 2008 (Miss World 2008) ในประเทศแอฟริกาใต้ขณะนี้ มีโชคชะตาที่พลิกผันคล้ายกัน กล่าวคือ ล้วนเป็นนางงามส้มหล่น ที่สถานการณ์หนุนส่งให้ได้ไปร่วมการประกวดอย่างบังเอิญ ทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์แต่อย่างไร
นี่คือชะตากรรมร่วมกันระหว่างซเวืองเจืองเทียนหลี (Duong Truong Thien Ly) จากเวียดนามกับ "มิ้ม" อัมราภัสร์ จุลกะเศียน จากประเทศไทย หญิงสาวที่สวยที่สุดจากสองประเทศเพื่อนบ้านได้ถูกจัดให้เข้าพักห้องเดียวกันในนครโจฮันเนสเบิร์ก
ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม เทียนหลีเพิ่งเดินทางถึงโจฮันเนสเบิร์กสุดสัปดาห์ ที่ผ่านมาหลังจากถูกเรียกตัวกลับเวียดนาม ลองชุดอยู่ 2-3 วันในกรุงฮานอย และรีดน้ำหนักตัวอย่างเร่งรีบ
สาวสวยนักศึกษาเดินทางกลับไปเรียนต่อในสหรัฐฯ ไม่นานหลังจากการประกวดมิสยูนิเวิร์สเวียดนาม (Miss Universe Vietnam 2008) ผ่านพ้นไป ซึ่งเธอได้รองอันดับ 2 กับตำแหน่งสาวงามเจ้าเสน่ห์ยิ้มหวาน เอาชนะใจแฟนๆ ที่โหวตให้คะแนนออนไลน์อย่างท่วมท้น
เทียนหลีไม่ได้เป็นแค่นักศึกษาธรรมดาๆ เธอมีผลงานการเดินแบบและถ่ายแบบแฟชั่น และผ่านเวทีในสหรัฐฯ มาพอสมควร จึงมิใช่คนหน้าใหม่สำหรับเวทีระดับอินเตอร์ฯ
"พูดถึงความเป็นมิสเวียดนามแล้ว เธอควรจะได้ตำแหน่ง.. มากกว่าถวี่เลิมเสียด้วยซ้ำ แต่ชาวเวียดนามเคร่งในเรื่องความเป็นสาวพื้นเมืองจนเกินไปในขณะนั้น" คอลัมนิสต์คนหนึ่งเขียนถึงเทียนหลี เมื่อได้ทราบว่าเธอกำลังจะเวทีมิสเวิลด์ 2008 แบบพลิกล๊อค
คอลัมนิสต์กำลังเปรียบเทียบเทียนหลีกับเจิ่นถวี่เลิม (Tran Thuy Lam) ดารานักร้องและบางแบบยอดนิยมในเวียดนาม ซึ่งเป็นเจ้าของมงกุฎ มิสเวียดนามยูนิเวิร์สคนแรกของประเทศ
ถวี่เลิมได้เข้าถึง 20 อันดับสุดท้ายบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2008 (Miss Universe 2008) ซึ่งเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
คอลัมนิสต์บางคนวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาและอย่างโหดร้ายว่า การเข้าถึง 20 อันดับในรอบรองสุดท้ายนั้น เป็นแค่การให้เกียรติประเทศเจ้าภาพ เพราะว่าสาวถวี่เลิมไม่มีจุดขายอย่างสิ้นเชิงบนเวทีระหว่างประเทศ
เทียนหลีข้ามห้วยไปจากเวทีมิสยูนิเวิร์สเวียดนาม คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้คัดเลือกเธอไปแทนเจิ่นถิถวี่ซวุง (Tran Thi Thuy Dung) มิสเวียดนาม 2008 ซึ่งถูกวางไว้ให้ไปทำหน้าที่ตัวแทนของประเทศที่เวทีมิสเวิลด์
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น ถวี่ซวุงถูกถอดมงกุฎ หลังจากจากทางการได้พบในภายหลังว่า เธอขาดคุณสมบัติสำคัญยิ่งยวด เนื่องจากยังเรียนไม่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
สำหรับเวียดนามการประกวด Miss World 2008 เป็นเสมือน "ไฟลท์บังคับ" ไม่บินไม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากครั้งต่อไปในปี 2553 เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพ เพราะฉะนั้นยากลำบากหรือขลุกขลักอย่างไรก็จะต้องหาสาวงามไปขึ้นเวทีให้ได้ไม่มีข้อยกเว้น
เทียนหลีข้ามลำห้วยไปหลายสาย เธอข้ามรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สเวียดนาม คือ หวอห่งม์เอี๋ยน (Vo Hong Yen) ไปเป็นด่านแรก และ ผ่านรองอันดับ 1 กับ 2 มิสเวียดนามไปอีกสองทอด
ห่งม์เอี๋ยนเป็นนางแบบอาชีพ สูงถึง 177 ซม. ดูดีไปทุกอย่างยกเว้นภาษาอังกฤษซึ่งพูดไม่ได้เลย แต่เทียนหลีนั้นเป็นสาวแอมอินเตอร์นักเรียนนอก กำลังเรียนอยู่ปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเซ็นต์แมรี่
โชคชะตาพลิกผันเมื่อทางการหันไปพิจารณาทีมประกวดมิสยูนิเวิร์สเวียดนาม หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อเจ้าของตำแหน่งมิสเวียดนามถูกถอดมงกุฎทำให้การประกวดเป็นโมฆะ รองมิสเวียดนามทั้งสองก็ไม่ควรจะได้รับสิทธิ์ไปเวทีมิสเวิลด์อีก
สำหรับน้องมิ้ม แม้ว่าจะเป็นการเดินตามสายงานการประกวดทุกประการ และเรื่องราวของเธอจะดูไม่ตื่นเต้นเท่ากับรูมเมทจากเวียดนาม แต่ก็เรียกได้ว่า ถูกส้มลูกโตๆ หล่นทับอีกคนหนึ่ง
สาวสวยชาวนนทบุรีเป็นรองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2550 (Miss Thailand World 2007) รุ่นที่ กนกกร ใจชื่น เป็นเจ้าของมงกุฎ
แต่ปีนี้เป็นปีแห่งการไว้ทุกข์ สถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ได้งดการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2008 และ เลือกน้องมิ้มเป็นตัวแทนไปประกวดที่นครโจฮันเนสเบิร์ก และ ยังไปได้เพื่อนร่วมห้องพักร่วมชะตาคล้ายกัน.