ผู้จัดการออนไลน์ -- ทหารพรานชุดดำของไทย ไม่อนุญาตให้ชาวเขมรกว่า 30 คนเข้าไปใกล้บริเวณปราสาทตาเมือนใหญ่ (Ta Moan Thom) เพื่อทำพิธีสวดมนต์ที่นั่น และยังไม่อนุญาตให้เข้าใกล้บริเวณลวดหนามที่ฝ่ายไทยทำขึ้นกั้นบริเวณปราสาทองค์ใหญ่ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเป็นของตน
เว็บไซต์ของสถานีวิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia) ภาคภาษาเขมร รายงานเรื่องนี้ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยไม่ได้ระบุว่าชาวเขมรกลุ่มนี้ไปจากที่ใด
พ.อ.นาคปุง (Neak Pung) ผู้บัญชาการกองกำลังกัมพูชา ที่ชายแดนด้านนั้น กล่าวว่า ฝ่ายทหารของไทย ซึ่งตั้งประจำที่กลุ่มปราสาทตาเมือน โดย “พ.อ.สมควร” กล่าวว่า ไม่มีอำนาจอนุญาตให้ชาวกัมพูชาเข้าไปในบริเวณปราสาท ต้องรอหน่วยเหนือสั่งการลงมาเสียก่อน
แต่ ผบ.ทหารกัมพูชา กล่าวว่า ได้แจ้งเรื่องนี้ต่อฝ่ายไทยล่วงหน้าหลายวันก่อนที่ ชาวเขมรกลุ่มดังกล่าวจะเดินทางไปยังปราสาทตาเมือนใหญ่ในเวลาเช้าตรู่วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา
“เราได้ขอมาล่วงหน้าหลายวัน แต่พวกเขาบอกว่าต้องรอจนกว่าจะได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์” อาร์เอฟเอ อ้างคำกล่าวของ ผบ.ทหารเขมร
ชาวเขมรทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาพนมดงรัก เพื่อทำพิธีทางศาสนาพราหมณ์ อ้อนวอนให้พลังอำนาจแห่งดวงวิญญาณของบรรพบุรุษและบรรพกษัตริย์ที่สิงสถิตที่นั่น ให้ขับไล่ “กองทัพไทยผู้รุกราน” พ้นจากปราสาทตาเมือนใหญ่ แต่ทหารไทยที่ปราสาทได้หลอกล่อและทำให้ชาวเขมรพากันโกรธ ผู้สื่อของวิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเขมรรายงานจากพื้นที่
ทหารไทยราว 10 นาย ได้ปรากฏตัวต่อหน้าชาวเขมรกุล่มดังกล่าวและห้ามจุดธูปเทียนทำพิธีใดๆ รวมทั้งห้ามเข้าใกล้เขตลวดหนามที่ฝ่ายๆไทยจัดล้อมบริเวณปราสาทเอาไว้ด้วย อาร์เอฟเอ กล่าว
ฝ่ายกัมพูชา กล่าวหาว่า ทหารไทยเคลื่อนกำลังเข้ายึดปราสาทตาเมือนใหญ่เมื่อวันที่ 3 ส.ค. แต่ได้เสริมกำลังเข้าไปก่อนหน้านั้นตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.หรือเพียง 1 วันก่อนการเลือกตั้งในกัมพูชา
ฝ่ายไทยกล่าวว่า ปราสาทตาเมือนใหญ่ เป็นของไทยอย่างไร้ข้อโต้แย้ง และทหารของทั้งสองฝ่ายประจำอยู่ในอาณาบริเวณนั้นมานานนับปี จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ที่มีทหารไทยไปประจำที่บริเวณองค์ปราสาท
รัฐมนตรีต่างประเทศไทยและกัมพูชามีกำหนดพบเจรจาหาทางแก้ไขปัญหาพาพาทเขตแดนอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 18 ส.ค.นี้ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์