xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวร้าย! ตึก 7 ชั้นน้ำพุเวียงจันทน์ร้าวทำท่าจะพัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#660099> ภาพถ่ายวันที่ 29 มี.ค.2551 ขวามือนั่นคือ</FONT><FONT color=#FF0000>อาคารสูง 7 ชั้น</FONT><FONT color=#660099>ใช้งานมานาน 58 ปี เคยเป็นที่ตั้งกระทรวงวัฒนธรรมและแถลงข่าว ตอนนี้กำลังร้าวและรอวันพังทะลาย ท่ามกลางธุรกิจเอกชนที่อยู่รายล้อม </FONT></CENTER>
ผู้จัดการออนไลน์—อาคาร 7 ชั้นอายุเกือบ 60 ปีที่บริเวณลานน้ำพุเวียงจันทน์ร้าวหนักในหลายจุดทั้งชั้นรากฐาน ด้านข้างและชั้นบนเสี่ยงต่อการพังทลายและเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวตลอดจนธุรกิจต่างๆ ที่อยู่รอบข้าง ขณะที่ทางการยังไม่สามารถรื้อถอนทำลายทิ้งได้ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายให้อำนาจเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน

อาคาร 7 ชั้นริมถนนเสดถาถิลาดดังกล่าวก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2493 ด้านหน้าเป็น "น้ำพุเวียงจันทน์" ซึ่งเมื่อก่อนนี้เคยเป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยมของชาวเมืองหลวง

ปัจจุบันรายรอบยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกินดื่ม ซึ่งรวมทั้งร้านอาหาร-คอฟฟีช้อป "ขอบใจเด้อ" เลอโปรว็องซาล (Le Provencal) โอเปอรา (Opera) รวมทั้งร้านสแกนดิเนเวียนเบเกอรี (Scandinavian Bakery) ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย

ที่ถนนสายเล็กๆ จากวงเวียนน้ำพุไปยังโรงแรมลาวพลาซ่า ถนนสามแสนไท ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมกับเกสต์เฮ้าส์ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนหลายหลัง รวมทั้งเฮือนพักมะลิด้วย

อีกฝั่งหนึ่งของถนนเสดถาทิลาดตรงข้ามกับอาคาร 7 ชั้น ยังเป็นสำนักงานหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์ ถัดไปเป็นสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) อีกด้านหนึ่งเป็นสำนักงานสายการบินลาวกับโรงแรมล้านช้าง

หากอาคารสูง 7 ชั้นพังลงมาคาดว่าจะสร้างความเสียหายให้แก่สถานที่ต่างๆ เหล่านี้อย่างใหญ่หลวง เป็นอันตรายต่อชีวิตของนักท่องเที่ยวและผู้สัญจรผ่านไปมาตลอดเวลา
<CENTER><FONT color=#660099> ภาพถ่ายวันที่ 29 มี.ค.2551 นักท่องเที่ยวจากยุโรปกลุ่มนี้ นั่งอาบแดด</FONT><FONT color=#FF0000>สังสรร</FONT><FONT color=#660099>กันในยามบ่ายคล้อยที่บริเวณน้ำพุเวียงจันทน์ ไม่ทราบว่าอาคารที่อยู่ข้างหลังกำลังร้าวหนัก และอาจจะพังทะลายลงได้ทุกเมื่อ </FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>ภาพถ่ายวันที่ 26 มี.ค.2551 ร้านอาหารและเบเกอรีหรูที่อยู่รอบๆ ถัดไปทางขวามือยังมีเกสต์เฮ้าส์ ส่วนร้าน ขอบใจเด้อ อยู่ทางด้านถนนเสดถาทิลาด เช่นเดีนวกันกับสำนักงานใหญ่หนังสือพิมพ์และสำนักข่าวของทางการ </FONT></CENTER>
ตามรายงานของ ขปล. กรมอาคารและผังเมืองกระทรวงการโยธาและขนส่ง ได้แสดงความห่วงใยในเรื่องนี้และมีนโยบายที่จะทุบทิ้งเพื่อป้องกันอันตราย แต่ติดขัดที่ยังไม่มีกฎหมายให้อำนาจ

ปัจจุบันหน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังเร่งจัดร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง เพื่อให้อำนาจแก่หน่วยงานของรัฐเข้าดำเนินการในเรื่องนี้ได้ คาดว่าจะสามารถเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาแห่งชาติในสมัยประชุมปลายปี

อย่างไรก็ตามกรมอาคารฯ ได้ออกประกาศห้ามใช้อาคารหลังนี้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ในปัจจุบันภายในอาคารยังมีผู้ฝ่าฝืนคำเตือนเข้าไปตั้งร้านค้าต่างๆ จำนวนหนึ่ง

อาคาร 7 ชั้นหลังนี้เคยเด่นเป็นสง่ามาตั้งแต่หลังยุคอาณานิคม ในฐานะเคยเป็นอาคารสูงที่สุดในเมืองหลวง เคยใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานสำคัญๆ ของรัฐมาจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเคยเป็นที่ตั้งกระทรวงวัฒนธรรมและแถลงข่าวเมื่อหลายกี่ปีก่อนหน้านี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น