ผู้จัดการออนไลน์ — พรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian People’s Party) ประกาศชัยในการเลือกตั้งวันอาทิตย์ (27 ก.ค.) นี้ แม้การนับคะแนนจะยังไม่แล้วเสร็จก็ตาม ชัยชนะดังกล่าวจะทำให้สมเด็จฯ ฮุนเซน ครองอำนาจต่อไปอีก 5 ปี หลังจากเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ ติดต่อกันมายาวนานเป็นเวลา 23 ปี
เจ้าหน้าที่พรรค กล่าวว่า กำลังมีคะแนนนิยมในทุกจังหวัด คาดว่า จะสามารถกวาดเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎรได้ระหว่าง 80-89 ที่นั่ง ตัวเลขนี้ได้รับการยืนยันจาก นายเขียว กัญฤทธิ์ (Khieu Kanharith) รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าว ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวซินหัว
“ผลการนับคะแนนชั้นต้นตามหน่วยต่างๆ แสดงให้เห็นว่า CPP กำลังนำหน้า.. แต่ยังบอกไม่ได้ในขณะนี้ว่าจะได้กี่ที่นั่ง แต่เข้าใจว่าเราจะมีที่นั่งเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 7 ที่นั่ง” นายเขียว กล่าวในตอนบ่ายวันอาทิตย์ ไม่กี่ชั่วโมงหลังหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ปิดลง
เจ้าหน้าที่พรรค CPP ยอมรับว่า พรรคสม รังสี มีโอกาสชนะราว 30 ที่นั่ง แต่เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนเอกชนที่เข้าไปสังเกตการณ์การเลือกตั้ง กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านมีโอกาสชนะถึง 50 ที่นั่ง ขณะที่พรรครัฐบาลอาจจะได้เพียง 70 ที่นั่งเศษๆ เท่าเดิม
“ยังไม่น่าจะมีพรรคไหนสามารถได้ที่นั่ง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนฯ ขณะนี้” เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว
ในขณะเดียวกัน พรรคสม รังสี ได้เรียกร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ (National Election Commission) ให้จัดเลือกตั้งในกรุงพนมเปญใหม่ หลังจากพบว่าผู้มีสิทธิออกเสียงราว 200,000 คน ไม่มีชื่อในทะเบียนเลือกตั้ง และไม่สามารถลงคะแนนได้
เจ้าหน้าที่พรรครัฐบาล กล่าวกับซินหัว ว่า CPP ชนะท่วมท้นในกรุงพนมเปญ ขณะที่โทรทัศน์ TVK ซึ่งได้รับอนุญาตจาก NEC ให้ทำหน้าที่รายงานผลการเลือกตั้ง กล่าวว่า CPP กวาดคะแนนเสียงไปแล้วราว 70% ใน จ.เกาะกง กัมปงโสม ไพลิน และ โพธิสัตว์ ขณะที่ พรรคสม รังสี ได้คะแนน 15-20% ในจังหวัดต่างๆ เหล่านี้
ตามรัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่เมื่อปีที่แล้ว การจัดตั้งรัฐบาลจะใช้ สส.เพียง 2 ใน 3 ของจำนวน สส. ในสภาเท่านั่น คือ เพียง 82 คน ต่างไปจากหลังเลือกตั้งปี 2546 ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้เสียงถึง 3 ใน 4 แต่ CPP มี สส.อยู่เพียง 73 คน
นายเขียว กล่าวว่า พรรครัฐบาลสามารถเอาชนะในหลายเขตเลือกตั้งที่เคยเป็นฐานสนับสนุนใหญ่ของพรรคสม รังสี ฝ่ายค้านพรรคใหญ่ที่สุดของประเทศ และจะทราบผลชัดเจนมากขึ้นในค่ำวันอาทิตย์ ซึ่งพรรค CPP จะประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการอาจจะใช้เวลาข้ามวันเนื่องจากการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ห่างไกลของประเทศยังไม่สะดวก แต่ NEC มีกำหนดจะประกาศผลขั้นต้นในวันจันทร์นี้
ผู้สังเกตการณ์ราว 13,000 คน ได้ลงพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งรวมกัน 18,000 หน่วย ทุกคนกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปโดยสงบและปราศจากความรุนแรงโดยทั่วไป