ผู้จัดการออนไลน์-- ทหารไทยกับทหารกัมพูชาเล็งปืนเข้าหากันในคืนวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) แต่ความตึงเครียดได้ลดลง หลังจากระดับผู้บังคับบัญชาพบหารือกันที่วัดแห่งหนึ่ง ตรงลาดเนินใกล้กับปราสาทพระวิหารซึ่งทหารไทยกับทหารกัมพูชาอยู่ที่นั่นมาเป็นวันที่สี่
ฝ่ายกัมพูชากล่าวว่าไทยได้เสริมทหารเข้าไปที่วัดอีกราว 100 คน เมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) ทำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นราว 500 คน เผชิญกับฝ่ายกัมพูชาที่มีราว 800 คน
ศาสตราจารย์ฮังโซ้ต (Hang Soth) ประธานองค์การแห่งชาติพระวิหารกล่าวว่า ทหารไทยอีก 109 นาย เข้าไปที่วัดอีกเมื่อวันศุกร์นี้ โดยเข้าประจำที่จุดใกล้ๆ กับทหารกัมพูชา
พ.อ.ชัย ห้วยสูงเนิน ผู้บัญชาการของฝ่ายไทยกล่าวว่า ทหารไทยไปที่นั่นเพื่อช่วยป้องกันมิให้ผู้ประท้วงจากฝั่งไทยขึ้นไปยังปราสาทพระวิหาร หลังจากมีผู้ประท้วงราว 4,000 คนได้พยายามขึ้นไปที่นั่นเมื่อวันพฤหัสบดี
"เราทุกคนต่างรักสันติ เราอยู่ที่นี่ เราไม่ได้ต้องการอะไรทั้งสิ้น เรามาเพื่อช่วยป้องกันในกรณีที่ผู้ประท้วงมาที่นี่" สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำกล่าวนายทหารของไทย
"เรามาเพื่อช่วยทหารกับประชาชนกัมพูชา ผมไม่คิดว่าพวกเราจะอยู่ที่นี่นาน"
ความตึงเครียดพุ่งขึ้นสูงเมื่อวันพฤหัสบดี ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าทหารของสองฝ่ายได้เล็งปืนเข้าใส่กันในช่วงเวลาประมาณ 10 นาที เมื่อทหารกัมพูชาราว 50 คนเข้าไปในเขตวัด เพื่อคุ้มกันอาหารที่นำไปถวายพระ
"ทหารของเรากับทหารไทยได้เล็งปืนเข้าใส่กัน ทั้งสองฝ่ายต่างเตรียมพร้อม" พล.จ.เจีย แก้ว (Chea Keo) ผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายกัมพูชาที่เขาพระวิหารกล่าวกับเอเอฟพี
"หลังจากผู้บัญชาการของเรากับของไทยพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็แก้ปัญหาของเรไาด้หลังจากได้คุยกับผู้บัญชาการฝ่ายไทย"
นายพลผู้นี้กล่าวว่า ทหารกัมพูชาได้ยอมนอนนอกบริเวณวัดในยามกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายไทย
เมื่อวันพฤหัสบดีสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ส่งสารถึงนายกรัฐมนตรีของไทยชี้ว่า ความขัดแย้งได้ลุกลามและคุกคามสัมพันธ์ของสองประเทศ
โฆษกของฝ่ายกัมพูชานายฟาย สีฟาน (Phay Siphan) บอกกับผู้สื่อข่าวบนเขาพระวิหารว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ต้องการเห็นเลือดไทยทหารหรือเลือดทหารเขมร นองที่นั่น
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองประเทศกหำลังจะพบหารือกับในวันจันทร์นี้ เพื่อหาทางเลี่ยงการเผชิญหน้า.