วิวาห์สาวยันฮี...ห้ามไม่ได้หัวใจปรารถนา

ผู้จัดการออนไลน์-- ก๊าต เตวี๋ยน (Cat Tuyen) นักร้องเสียงห้าวแห่งวงการ เข้าพิธีวิวาห์แบบแหวกม่านประเพณีกับหนุ่มคนรักในสัปดาห์นี้ มันเป็นวันที่รอยคอยมานาน หลังจากลงทุนลงแรงเดินทางไปผ่าตัดแปลงเพศเมื่อ 2 ปีก่อน

ไม่มีหมอที่ไหนฝีมือดีเท่ากับหมอไทยสำหรับการนี้ โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ แห่งนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชายหัวใจหญิงเวียดนาม

นอกจากเสียงห้าวที่ยังแก้ไม่หายแล้วไม่มีอะไรอื่นอีกเลยที่หมอไทยช่วยไม่ได้ ก๊าตเตวี๋ยนเป็นหญิงเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์

งานเลี้ยงฉลองวิวาห์ยันฮีจัดขึ้นที่ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์วันจันทร์ (7 เม.ย.) ที่ผ่านมาท่ามกลางเพื่อนฝูง นับเป็นวิวาห์ที่ท้าทายความรู้สึกของประชาคมชาวเวียดนามที่เคร่งครัดในวัฒนธรรมดั้งเดิม ท่ามกลางสายตาที่จ้องเขม็งของมือกฎหมาย

เตวี๋ยนไปพบกับจิ๋งเญิน (Chinh Nhan) หนุ่มคนรักเมื่อ 2 ปีก่อน เขาเป็นศิลปินนักแสดงละครปรำปรา สัมพันธ์ขันเกลียวกระชับแน่นมาตั้งแต่นั้น แต่ด้วยแรงเสียดทานจากสังคมรวมทั้งการห้ามปรามของครอบครัวทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถร่วมหอลงโรงกันได้สักที

เสียงซุบซิบนินทาได้เปลี่ยนมาเป็นความเห็นอกเห็นใจเมื่อก๊าตเตวี๋ยนพิสูจน์ตัวเองได้ว่า ตนเองเป็นหญิงมากกว่าชาย โดยเปิดแสดงคอนเสิร์ตขึ้นในเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ทำให้ทั้งคู่มีกำลังใจ เทียวไล้เทียวขื่อจนกระทั่งครอบครัวของทั้งสองฝ่ายยินยอม

"ทั้งสองต่างเป็นคนที่มีชื่อเสียงและกล้าหาญมากที่แสดงตัวต่อสาธารณชน" เกย์หนุ่มใหญ่ในนครโฮจิมินห์คนหนึ่งกล่าวกับเวียดนามนิวส์ (Vietnam News) หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษแห่งกรุงฮานอย เรื่องราวก็ยิ่งฮาไปสู่วงการระหว่างประเทศ

ถึงว่าการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกันจะไม่ใช่เรื่องน่าอายในหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่สำหรับเวียดนามเป็นเหตุการณ์สำคัญ และท้าทายต่อการพัฒนาขั้นต่อไปในประชาคมชาวเกย์กับเลสเบี้ยนที่อยู่กันแบบลักปิดลักเปิดตลอดมา

"ชั้นทนรอที่จะสวมชุดวิวาห์ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ชีวิตคนที่ผ่าตัดแปลงเพศนั้นสั้นกว่าคนอื่นเราแสนสั้น ชั้นเลยต้องรีบตัดสินใจ ปีนี้ 30 แล้วไม่นานสุขภาพก็จะโรย ความจำก็จะเริ่มเสื่อมลง" ก๊าตเตวี๋ยนกล่าว

ส่วนเญินกล่าวว่า การแต่งงานไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องตามประเพณี แต่เขากับเตวี๋ยนตัดสินใจจัดขึ้นให้เป็น "การศึกษา" แก่ประชาคมชาวลักร่วมเพศ

"เราเป็นประชาชนคนธรรมดา ทำไมเราจะแต่งงานกันแบบคนธรรมดาสามัญทั่วไปทำกันไม่ได้" นายเญินกล่าว


อย่างไรก็ตาม แม้จะกลายเป็นหญิงไปแล้วในทางกายภาพ แต่ทางนิติศาสตร์ยังไม่มีอะไรรองรับ เจ้าหน้าที่ทะเบียนที่เมืองหมีเถาะ (My Tho) จ.เตี่ยนยาง (Tien Giang) บ้านเกิด แจ้งให้เตวี๋ยนทราบว่า สรรพนามนำหน้าของเขายังคงเป็น "นาย" ต่อไป และ ทางการไม่สามารถจดทะเบียนสมรสให้ชายที่แต่งกับชายด้วยกันได้

เตวี๋ยนได้แต่ร้องไห้

นางเจื่องถิหว่า (Truong Thi Hoa) นักกฎหมายในนครโฮจิมินห์ ได้แต่แสดงความเห็นใจ และ สนับสนุนให้เตวี๋ยนไปร้องเรียนต่อกระทรวงยุติ เพื่อขอให้มีการพิสูจน์และระบุเพศของเขาเสียใหม่.