สะท้านสะเทือน..แรงจัด “นู้ดโฮจิมินห์”

สัปดาห์ที่แล้วช่างภาพหน้าใหม่อีกคนหนึ่งได้แจ้งเกิดแบบสะเทือนวงการในเวียดนาม ซึ่งเป็นไปได้ว่ากำลังจะมีหนังสือภาพเป็นอัลบั้มนู้ดขึ้นมาอีกเล่มหนึ่ง อาจจะเป็นเล่มที่ 2 หรือ 3 ในประเทศนี้ถัดจาก "นู้ดฮานอย" ซึ่งสร้างความฮือฮาช่วงก่อนปีใหม่

คราวนี้.. นู้ดโฮจิมินห์ ฝีมือของเดืองก๊วกดิ่ง (Duong Quoc Dinh)

ภาพถ่ายเปลือยของหญิงสาวที่ชื่อ ความฝันยามบ่าย.. หรือ Afternoon Dream ของก๊วกดิ่ง เพิ่งได้รับรางวัลเหรียญทองจากงานประกวดที่จัดโดยหนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุน (Asahi Shimbun) ในญี่ปุ่น

อาซาฮีเป็นหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่เบอร์ 2 แต่หากเป็นยักษ์ฝ่ายคุณภาพ มีสถาบันจัดประกวดประชันภาพถ่ายเป็นประจำทุกปีและไม่ใช่ย่อย หากเป็นการประกวดภาพถ่ายระดับนานาชาติอย่างแท้จริง ทุกครั้งมีผู้ส่งภาพเข้าประกวดนับหมื่นชิ้นจากทั่วโลก โดยไม่มีการจำกัดเนื้อหา..

"ก๊วกดิ่งได้ทำให้วงการถ่ายภาพในเวียดนามต้องประหลาดใจ เพราะว่าเพียงแค่เวลา 2 ปีที่ทำงานเป็นช่างภาพอาชีพ เขาได้รับรางวัลชนะเลิศระดับนานาชาติถึง 4 รางวัลและภาพที่ได้รับรางวัลเป็นภาพนู้ดทั้งสิ้น" หนังสือพิมพ์เตี่ยนฝอง (Tien Phong) หรือ "ผู้บุกเบิก" รายงานเรื่องนี้

ก๊วกดิ่งเป็นช่างภาพละอ่อนแต่กำลังแรงจัด ปีที่แล้วภาพนู้ดของเขาที่ชื่อ Life's Medium (วิถีแห่งชีวิต) ก็คว้ารางวัลเหรียญทองของอาซาฮีชิมบุนไปแบบเงียบๆ สื่อในเวียดนามไม่ได้สังเกต และ ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องนี้


เพราะฉะนั้น "ความฝันยามบ่าย" กับรางวัลเหรียญทองในปีนี้จึงไม่ธรรมดา

เมื่อไม่นานนี้ก๊วกดิ่งได้ส่งภาพถ่ายจำนวน 4 ภาพไปร่วมงาน Hong Kong International Photo Contest ครั้งที่ 61 ซึ่งมีผู้ส่งงานเข้าประกวดเกือบ 10,000 ชิ้น

ภาพถ่ายทั้ง 4 ภาพของก๊วกดิ่ง ได้รับรางวัลทั้งหมด ภาพที่ชื่อ "สีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง" (Autumn Colour) คว้าเหรียญทอง และ "เรือนร่างแห่งบุปผา" หรือ Shape of Flower ก็คว้าเหรียญทองเหรียญเป็นเหรียญที่ 2

อีก 2 ชิ้นคือ "ความฝันใฝ่" (Aspiration) กับ "งานศิลปะทั้งสองชิ้น" (Two Artworks) ได้รางวัลเหรียญทองแดง

เป็นอันว่าก๊วกดิ่งเป็นช่างภาพนู้ดระดับมือทองในทันที เพราะมีรางวัลเหรียญทองระดับนานาชาติ 4 รางวัลเป็นประกัน แต่เรื่องราวของเขายังมีมากกว่านั้น..

ก๊วกดิ่งเกิดปี 2510 เรียนจบจากวิทยาลัยช่างศิลป์ จ.ด่งนาย (Dong Nai) ใกล้ๆ กับกรุงไซ่ง่อนในอดีต ปัจจุบันเขามีแกลเลอรีเล็กๆ ในนครโฮจิมินห์

ตลอด 10 ปีแรกของการทำงาน ก๊วกดิ่งเน้นไปทางภาพวาดกับภาพเขียน และเพิ่งเปลี่ยนแปลงชีวิต หันมาจับกล้องถ่ายรูปจริงจังเมื่อปี 2547

ภายในเวลา 2 ปี ระหว่างปี 2545-2547 ผลงานทั้งภาพเขียนและภาพวาดของก๊วกดิ่ง กวาดรางวัลจากการประกวดระดับชาติและนานาชาติมาแล้วถึง 16 รางวัล

ก๊วกดิ่งกล่าวถึงงานของเขาว่า เนื่องจากเป็นช่างเขียนรูปมาก่อน จึงสามารถซึมซับเอาความงดงามบนเรือนร่างสตรีได้อย่างลึกซึ้ง และ ตัวเขาเองยกย่องความงดงามที่ธรรมชาติประทานมาให้กับสตรีเพศ

ดิ่งกล่าวอีกว่านางแบบทั้งหมดที่ผ่านตาของเขา ไม่ใช่นางแบบอาชีพ ไม่มีการเสแสร้งปั้นแต่ง แต่เป็นหญิงสาวที่สามารถพบได้ทั่วไปตามท้องถนน ตามซอกซอย ซึ่งทุกคนมีความงามตามธรรมชาติ

ช่างภาพรุ่นพี่จำนวนหนึ่งได้ให้คำแนะนำว่าก๊วกดิ่งไม่ควรเน้นงานไปที่ภาพนู้ด เพราะเป็น "สื่อ" ที่มีความอ่อนไหวและล่อแหลมมากในสังคมเวียดนาม แม้กระทั่งในประชาคมระหว่างประเทศเองก็ยังติดตามเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง

แต่ดิ่งกล่าวว่า ความงดงามบนเรือนร่างอิสตรีนั้น เป็นความงามที่ "ไม่มีขีดจำกัด"

หลังจาก "นู้ดฮานอย" สร้างความฮือฮาบนแผงหนังสือได้ไม่นาน แฟนๆ กำลังตั้งตารอคอย "นู้ดโฮจิมินห์".
อ่านเรื่องราวก่อนหน้านี้จาก "ข่าวที่เกี่ยวข้อง"