พรรคประชาชนกัมพูชาได้มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน รองหัวหน้าพรรค เป็นตัวแทนเพื่อชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัย หลังการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27 ก.ค.ปีนี้
พรรคประชาชนกัมพูชามีมติดังกล่าวระหว่างการประชุมสมัชชาสมัยวิสามัญเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งสำเร็จลงในวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นรายงานของสื่อในกัมพูชา
ที่ประชุมสมัชชาพรรคยังได้หารือเกี่ยวกับการณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ตลอดจนหารือเกี่ยวกับโยบายพื้นฐานของพรรคและแผนปฏิบัติการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในช่วง 5 ปีข้างหน้าคือ ระหว่างปี 2551-2555 อีกด้วย สำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchea Preesse) ซึ่งเป็นของรัฐบาลกล่าว
สมเด็จฮุนเซนเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ก่อนจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1980 ในรัฐบาลที่เวียดนามจัดตั้งขึ้น หลังขับไล่รัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตย (เขมรแดง) ออกจากกรุงพนมเปญ
หลังสหประชาชาติจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในปี 2537 พรรคประชาชนกัมพูชา (พรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชาในอดีต) ได้เสียงไม่มากพอจัดตั้งรัฐบาล จึงได้ร่วมกับพรรคฟุนซินเปก ซึ่งเป็นพรรคการเมืองแนวราชานิยมบริหารประเทศ และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ร่วมกับกรมพระนโรดมรณฤทธิ์
สถานการณ์ทางการเมืองผันแปรไป แต่สมเด็จฯ ฮุนเซนกับพรรคประชาชนกัมพูชาก็ยังได้เป็นพรรครัฐบาลสืบมา
นักวิเคราะห์เชื่อว่าพรรคของสมเด็จฯ ฮุนเซน ยังจะได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ฟุนซินเปกซึ่งเป็นทั้งพันธมิตรทั้งคู่แข่งทางการเมืองอ่อนแอลง และ พรรคนโรดมรณฤทธิ์ที่ตั้งขึ้นใหม่ก็ยังไม่ได้รับความนิยม
พรรคประชาชนกัมพูชามีคู่แข่งสำคัญเพียงรายเดียวคือ พรรคสมรังสี ซึ่งในช่วงปีใกล้ๆ นี้ได้ขยายฐานสนับสนุนทางการเมืองออกไปอย่างกว้างขวาง