xs
xsm
sm
md
lg

เกย์ไม่ใช่ กะหร่วยไม่เชิง อยู่ป่าเดียวกัน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



องค์การเอกชนแห่งหนึ่ง ได้เปิดเผยพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศในหมู่บุรุษชาวเขมรที่น่าเป็นห่วง ปัจจุบันผู้ชายที่แสวงหาการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ชายทั่วไป ไม่ใช่ “เกย์” หรือ ชายขายบริการทางเพศ

สิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้น ก็คือ “ผู้ชาย MSM” กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีเอดส์สูงมาก ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี

ช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เป็นเวลาที่ชายหนุ่มจำนวนมากในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ออกมาเดินตามสวนสาธารณะ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง นั่นก็คือ “เซ็กซ์” --- มิใช่กับผู้หญิงบริการ แต่กับพวกเดียวกันเอง

“การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายเป็นสิ่งที่ผมชอบ มันผ่อนคลายดี” นายโปว ผู้จัดการผับแห่งหนึ่งกล่าวระหว่างนั่งดื่มอยู่กับเพื่อนชายหลายคน

เช่นเดียวกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายไม่ใช่สิ่งใหม่ในกัมพูชา

ชายกัมพูชาอย่างโปว จะเรียกกันว่า “MSM” คือ ผู้ชายที่มีเซ็กซ์กับผู้ชายด้วยกัน แต่ไม่เรียกตัวเองว่าเป็นพวกรักร่วมเพศ หรือรักทั้งสองเพศแต่อย่างใด ซึ่งบุคคลประเภทนี้มีประมาณ 4% ของชายกัมพูชาทั้งหมด ทั้งนี้ อ้างอิงจากข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญ

เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กล่าวว่า กระแสความนิยมของการมีเพศสัมพันธ์ลักษณะดังกล่าวเพิ่มเสี่ยงของการแพร่กระจายโรคเอดส์ หรือเชื้อเอชไอวีมากขึ้น

การรณรงค์ให้ใช้ถุงยางอนามัย และให้ความรู้เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ประสบผลสำเร็จอย่างมากในกัมพูชา อัตราการติดเชื้อเอชไอวีเมื่อปี พ.ศ.2540 อยู่ที่ 3.7% ของจำนวนประชากรประมาณ 11.5 ล้านคน ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แต่อัตราดังกล่าวลงลงเหลือเพียง 0.9% ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กล่าวว่า การรณรงค์ดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึง “MSM” ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด

“มีการแพร่กระจายโรคระบาดอย่างรุนแรงในกลุ่ม “MSM”...หากพวกเราไม่หาทางป้องกันการติดเชื้อ โรคระบาดดังกล่าวก็จะส่งผลต่ออัตราการติดเชื้อเอชไอวีทั้งหมด” นายโทนี ลิสเล (Tony Lisle) ผู้ประสานงานโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ของกัมพูชากล่าว

การแพร่กระจายเชื้อในผู้ชายรักร่วมเพศคิดเป็นประมาณ 8.7% หรือสูงกว่าการร่วมเพศปกติเกือบ 10 เท่า ขณะที่การแพร่เชื้อในการมีเพศสัมพันธ์รูปแบบอื่นเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งชี้ให้เห็นว่า กลุ่ม “MSM” ไม่นิยมใช้ถุงยางอนามัย

ผู้ชายจำนวนมากแสวงหาเซ็กซ์จากผู้ชายอื่น ซึ่งมีน้อยมากที่เป็นผู้ชายขายบริการโดยตรง ขณะเดียวกันก็ดำเนินชีวิตตามปกติ แต่งงานมีครอบครัว

"เหตุผลทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสังคม ทำให้เป็นเรื่องยากในการพูดคุยเกี่ยวกับเซ็กซ์...ในปัจจุบันผู้คนแสวงหาการมีเพศสัมพันธ์ด้วยสถานะต่างๆ มากมาย การป้องกันจึงทำได้ยาก" นายลิสเลกล่าว

ขณะที่การรณรงค์ทำให้ผู้คนตระหนักถึงการแพร่กระจายของโรคเอดส์และเชื้อเอชไอวี แต่ก็ยังมีการเพิกเฉยต่อวิกฤตการณ์ดังกล่าวจากกลุ่ม "MSM"

"กลุ่ม "MSM" มีโอกาสเสี่ยงมากที่จะติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากพวกเขาไม่เข้าใจว่าเชื้อส่งผ่านถึงกันได้อย่างไร...พวกเขาคิดว่า เชื้อเอชไอวีถ่ายทอดระหว่างหญิงชายที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยเท่านั้น" นายซุมที (Sum Thy) จากองค์การอนามัยครอบครัวระหว่างประเทศ (Family Health International) หรือ FHI ซึ่งสำรวจพฤติกรรมทางเพศของผู้ชายหลายพันคน

มีคลินิกอย่างน้อย 1 แห่งให้บริการรักษาโรคสำหรับ “MSM” โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2546 มีผู้ใช้บริการเพียงไม่กี่คน แต่ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละกว่า 200 คน

มีการจัดตั้งคณะทำงาน “MSM” แห่งชาติ เพื่อประสานงานเกี่ยวกับโครงการสำหรับรับมือกับการติดเชื้อเอชไอวีแบบใหม่ ซึ่งการจัดตั้งคณะทำงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลกัมพูชาเริ่มตระหนักถึงการเกิดโรคระบาดในกลุ่ม “MSM”...หากหลายฝ่ายไม่ช่วยกัน ปัญหาดังกล่าวก็จะรุนแรงมากขึ้น นายลิสเล กล่าว

(เรียบเรียงจากบทความเรื่อง Casual sex among Cambodia's MSMs an HIV timebomb ของ Chan Soratha สำนักข่าว AFP)

กำลังโหลดความคิดเห็น