แอนเจลินา โจลี (Angelina Jolie) และ แบรด พิตต์ (Brad Pitt) ต้องการรับเลี้ยงลูกบุญธรรมจากพม่า เพื่อขยาย "ครอบครัวสายรุ้ง" ให้ใหญ่มากขึ้น
สามีภรรยาคู่ดังประจำวงการฮอลลีวูดได้ขอความช่วยเหลือจากผู้นำสงฆ์พม่ารูปหนึ่ง เพื่อวางแผนการเดินทางไปเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศนี้อย่างปลอดภัย
ข้อมูลของแหล่งข่าววงในบอกว่า แอนจี้วัย 32 ปี เริ่มรู้สึกหมดกำลังใจมากขึ้นเกี่ยวกับความคืบหน้าที่เธอกำลังช่วยเหลือประเทศในโลกที่ 3 ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ (Daily Mail) ในอังกฤษ
แอนจี้มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่ช่วยเหลือประเทศที่กำลังเดือดร้อนและพม่าก็เป็นประเทศในอุดมคติสำหรับนักแสดงสาว ที่จะรับเด็กเป็นลูกบุญธรรมอีกคน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเด็กผู้หญิง
ปัจจุบัน ครอบครัวโจลี-พิตต์ (Jolie-Pitt) มีลูกทั้งหมด 4 คน
แอนจี้รับแม็ดดอกซ์ (Maddox) ลูกชายคนโตวัย 6 ขวบ จากกัมพูชาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะใช้ชีวิตร่วมกับแบรด
หลังจากนั้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว นางเอกสาวเรียวปากสวยกับพระเอกหนุ่มหล่อคู่ชีวิต ได้ร่วมกันรับหนูน้อยซาฮาร่า (Zahara) จากเอธิโอเปียไปเป็นลูกบุญธรรมอีกคน
เมื่อต้นปีนี้ดาราคู่ขวัญฮอลลีวูดเพิ่งจะรับแพ็กซ์ เทียน (Pax Thien) วัย 3 ขวบจากเวียดนามเป็นลูกบุญธรรมคนล่าสุด และ เมื่อปีที่แล้วแอนจี้ก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวไชโลห์ (Shiloh) เลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆ ของเธอกับแบรด
แอนจี้กับแบรดร่วมกันแสดงภาพยนตร์เรื่อง Mr & Mrs Smith ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมือปืนคู่สามีภรรยา ที่อยู่ด้วยกันโดยต่างฝ่ายต่างก็ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นนักฆ่าเลือดเย็น จากนั้นสองดารายอดนิยมแห่งฮอลลีวูดก็ได้รับฉายา "Mr & Mrs Smith" เรื่อยมา
แอนเจลินารู้สึกว่า เธอไม่อาจช่วยคลายความทุกข์ทรมานของผู้คนที่เธอพบเห็นในประเทศโลกที่ 3 ให้ลงน้อยลงได้ เธอได้พบเห็นผู้คนเหล่านั้นระหว่างเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ในฐานะทูตสันถวะไมตรีของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือ UNHCR (UN High Commissioner for Refugees)
"เธอต้องการลงมือทำอะไรสักอย่างสำหรับส่วนที่เธอเรียกว่า-- พื้นที่เตือนภัยระดับรุนแรง-- ซึ่งเป็นบริเวณที่กำลังประสบความเดือดร้อนอย่างมาก และได้รับผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้...เธอกำลังการเจรจาเพื่อเดินทางเข้าไปในพม่า เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนและผู้เคราะห์ร้ายจากโรคเอดส์ ซึ่งกำลังทนทุกข์ทรมานอย่างที่สุด" ผู้ทราบเรื่องดีกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า แอนเจลินาได้หารือกับพระสงฆ์รูปหนึ่งในพม่าเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางเข้าไปยังประเทศที่ปกครองด้วยระบอบทหารแห่งนี้ รวมทั้งการเข้าเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วย
กล่าวกันว่า การรับลูกสาวอีกคนจะช่วยสร้างสมดุลให้ครอบครัวของเธอ และ เด็กหญิงจากพม่าจะเหมาะสมกับการผสมผสานหลากหลายเชื้อชาติของครอบครัวนี้ได้ดี
แอนจี้ได้ขอความช่วยเหลือจาก ดร.เจน เอรอนสัน (Dr Jane Aronson) ผู้เชี่ยวชาญด้านการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม ซึ่งเป็นผู้จัดตั้งกองทุนเด็กกำพร้าทั่วโลก (Worldwide Orphans Foundation)
เชื่อกันว่า ดร.เอรอนสันเป็นที่ปรึกษาให้แก่นักแสดงสาวเรื่อยมา หลังจากได้เคยช่วยเหลือในการรับเลี้ยงหนูน้อยซาฮาร่า
แหล่งข่าวกล่าวว่า แอนจี้รู้สึกหงุดหงิดใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ไม่สามารถสร้างประโยชน์ช่วยเหลือประเทศในโลกที่ 3 ได้ดีกว่านี้ โดยคุณแม่ลูก 4 รู้สึกว่า เธอและแบรดใช้เวลาอยู่ในฮอลลีวูดมากเกินไป
นอกจากนั้น เธอยังสิ้นหวังมากขึ้นจากการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของคุณแม่มาร์เชลีน แบร์ตร็อง (Marcheline Bertrand) นักแสดงชาวฝรั่งเศส เมื่อเดือน ม.ค. ปีนี้ ความโศกเศร้าจากการเสียชีวิตของคุณแม่ส่งผลให้น้ำหนักของเธอลงลงฮวบฮาบ
แอนเจลินาเคยเอ่ยถึงความปรารถนาที่จะสร้างครอบครัว "สายรุ้ง" ด้วยการรับเลี้ยงลูกบุญธรรมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก
เธอกล่าวเมื่อไม่นานนี้ว่า "ตั้งแต่อายุได้ 12 ขวบ ฉันก็ต้องการจะรับเลี้ยงเด็กเป็นลูกบุญธรรม ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เราต้องการที่จะมีครอบครัวใหญ่ๆ"