กัมพูชาเป็นประเทศหนึ่งที่ร่ำรวยด้วยหินล้ำค่า (Gem Stone) หลากชนิด แต่ในปัจจุบันอัญมณีเหล่านั้นไม่สามารถหาได้จากเมืองไพลิน (Pailin) อีกต่อไปแล้ว ผู้ค้าในกัมพูชากำลังมุ่งสู่ภาคตะวันออกของประเทศ เพื่อขุดค้นหามรดกจากธรรมชาติ
ปัจจุบันยังผลิตกัมพูชายังผลิตอัญมณีได้น้อย ทำให้ส่วนหนึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อป้อนตลาด ผู้ค้าที่มาร่วมงานแสดงอัญมณีระหว่างประเทศในกรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน”
ผู้ผลิตอัญมณีจากกัมพูชาจำนวน 4 บริษัทได้มาร่วมงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวอร์รี่ แฟร์ ครั้งที่ 40 (40th Bangkok Gems & Jewelry Fair) ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย. ที่ผ่านมา
บริษัทเหล่านี้ได้นำพลอยหายากหลากสี และมีราคาแพงมาแสดงและจำหน่ายในงานนี้ด้วย
นางเช็ง ฮัค (Chheng Hak) เจ้าของร้าน Chheng Hak Stone Diamond ซึ่งพูดภาษไทยได้อย่างคล่องแคล่วกล่าวว่า สาเหตุที่พลอยธรรมชาติจากกัมพูชามีราคาแพงเนื่องจากหายากและยังผลิตได้น้อย
แหล่งอัญมณีในกัมพูชากระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ จาก จ.ไพลิน ที่อยู่ติดชายแดนไทย ซึ่งในปัจจุบันไม่มีหินล้ำค่าเหลืออยู่อีกแล้ว ไปจนถึง จ.ตะแกว (Takeo) ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ จ.กัมปงธม (Kampong Thom) ในภาคกลาง และ จ.รัตนคีรี (Ratanakiri) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อัญมณีส่วนใหญ่ที่พบในกัมพูชา คือ ไพลินและพลอยสีสันสวยงามย่างมีเอกลักษณ์อีกหลายชนิดซึ่งผู้ค้านำไปทำเครื่องประดับ เช่น แหวน ต่างหู และ จี้สร้อยคอ มากมายหลายสีสัน
เชื่อว่าในกัมพูชายังมีอัญมณีล้ำค่าที่รอการขุดค้นขึ้นมาใช้ประโยชน์อีกจำนวนมหาศาล อุตสาหกรรมเหมืองจึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมนี้ยังจะต้องนำเข้าพลอยจากต่างประเทศ ทั้งจากอินเดีย และแอฟริกา เนื่องจากยังผลิตได้ไม่มาก จึงทำให้มีราคาแพงอีกด้วย นางเช็ง ฮัคกล่าว
ผู้ค้ารายนี้ยืนยันว่า จ.ไพลิน ซึ่งเคยมีชื่อเสียงด้านพลอยแดง และไพลิน (พลอยสีน้ำเงิน) ปัจจุบันแทบไม่มีพลอยคุณภาพเหลืออยู่อีกแล้ว
นางเช็งกล่าวอีกว่า อัญมณีใน จ.ไพลินถูกขุดค้นและนำออกขายต่างประเทศจำนวนมาก ในสมัยเขมรแดงเรืองอำนาจ ส่งผลให้ปัจจุบันพบแต่พลอยคุณภาพต่ำ และ วางจำหน่ายอยู่ตามตลาดภายในจังหวัดเท่านั้น
กัมปงธมซึ่งเป็นจังหวัดในเขตที่ราบภาคกลางของประเทศ ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ทะเลสาบโตนเลสาบ (Tonle Sap) และ โบรสถานเก่าแก่ในยุคสมโบรไพรกุก (Sambro Prey Kuk) เมืองในยุคอาณาจักรเจนละ (Chenla) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7
ที่นั่นยังเป็นแหล่งพลอยสีม่วง (fine amethysts) ที่หายากของประเทศอีกด้วย นางเช็งกล่าว
ขณะที่พลอยสีเหลืองพบใน จ.ตะแกวซึ่งเคยเป็นเมืองท่าสำคัญของอาณาจักรฟูนันที่
ในรัตนคีรีมีเพทาย (blue zircons) หินสีฟ้าใส และ พลอยสีม่วง เป็นอัญมณีเลื่องลือชื่อของประเทศโดยแหล่งเหมืองแร่สำคัญอยู่ทางทิศใต้และตะวันตกของจังหวัด
ท่านที่สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดอื่นๆ ได้ตามที่อยู่: