xs
xsm
sm
md
lg

เปิดสนามบินโฮจิมินห์เฟสใหม่ใหญ่กว่าเดิม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ผู้จัดการรายวัน-- หลังจากก่อสร้างมาเป็นเวลา 3 ปี ทางการเวียดนามได้เริ่มเปิดทดลองใช้ส่วนต่อขยายของท่าอากาศยานนานาชาติเติ่นเซินเญิต (Tan Son Nhat) นครโฮจิมินห์ในสัปดาห์นี้ ก่อนจะมีการเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนหน้า

ท่าอากาศยานนครโฮจิมินห์แห่งนี้จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 10 ล้านคน และ จะช่วยลดความแออัดการสัญจรทางอากาศในนครที่ใหญ่ที่สุด และ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศแห่งนี้ได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับอนาคต

ในช่วงปีหลังนี้นักธุรกิจ-นักท่องเที่ยว กระทั่งนักเดินทางชาวเวียดนามเองพากันบ่นอุบ เมื่อเครื่องบินโดยสารต้องบินวนหลายรอบก่อนจะลงจอดได้ หรือ เมื่อลงจอดแล้วยังจะต้องจอดรอกินเวลาตั้งแต่ 10-15 นาที จึงจะเข้าจอดเทียบได้ เพราะต้องรอให้เครื่องบินลำอื่นออกจากที่จอดเสียก่อน

ในขั้นทดลองนี้สายการบินต่างประเทศจำนวน 5 แห่งได้เริ่มไปใช้บริการลานจอดและอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ในวันอังคาร (14 ส.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งได้แก่ แมนดารินแอร์ไลน์ส ไทเกอร์แอร์เวย์ส เสินเจิ้นแอร์ไลน์ส รอยัลบรูไนแอร์ไลนส์และยูนิแอร์

การทดลองจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สายการบินต่างชาติกับการบินเวียดนามรวมเกือบ 40 แห่ง จึงจะไปใช้บริการอย่างถาวรซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้หลังวันที่ 2 ก.ย. วันชาติของเวียดนาม ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของนายเจิ่นวิงเคิม (Tran Vinh Kham) หัวหน้าฝ่ายบริหารของการท่าอากาศยานภาคใต้ (Southern Airport Authority)

เมื่อถึงเวลานั้น อาคารเก่าของท่าอากาศยานเติ่นเซินเญิต จะใช้สำหรับสายการบินในประเทศ

ท่าอากาศยานเติ่นเซินเญิตเป็นทั้งฐานทัพและสนามบินพลเรือนเก่าแก่ตั้งแต่ยุคอาณานิคม ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางของกรุงไซ่ง่อน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้ในอดีตเพียง 8 กิโลเมตร

ในปัจจุบันตัวเมืองได้ขยายออกไปโอบล้อมบริเวณสนามบินทุกทิศทุกทาง ไม่สามารถขยายได้มากกว่านี้

เวียดนามกำลังอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างท่าอากาศยานขนาดใหญ่ที่ อ.ลองแท็ง (Long Thanh) จ.ด่งนาย (Dong Nai) ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางตะวันออกราว 40 กิโลเมตร โดยมีกำหนดเปิดใช้ในอีก 8 ปีข้างหน้า

นายเคิมกล่าวเมื่อวันพุธ (15 ส.ค.) ว่า ที่อาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ของท่าอากาศยานเติ่นเซินเญิต ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้มาตรฐานระดับโลก รวมทั้งสายพานส่งสัมภาระจำนวน 10 จุด ท่าเทียบเครื่องบิน 8 แห่ง ลิฟต์ 20 ตัว และ ทางเดินเลื่อน 8 จุด ประตูอัตโนมัติ 10 จุด เครื่องเอ็กซ์เรย์ 43 เครื่อง ป้ายดิจิตอลบอกเที่ยวบิน และ อื่นๆ

เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวอีกว่าบริการต่างๆ จะรวดเร็วขึ้นและมีมาตรฐานเทียบเท่ากับที่ท่าอากาศยานแห่งอื่นๆ ในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการเช็คอิน การตรวจเอกสารและการตรวจคนเข้าเมือง

อาคารใหม่ที่มีความสูง 4 ชั้นจะเพียบพร้อมด้วยร้านค้า ร้านจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี บริการอินเทอร์เน็ต สำนักงานจำหน่ายตั๋วออนไลน์ ศูนย์สุขภาพและบริการความสวยความงามต่างๆ

อาคารหลังใหม่ซึ่งมีพื้นที่รวมกันกว่า 190,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 8-10 ล้านคน และการก่อสร้างเพิ่มเติมเฟสที่ 2 ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2553 จะทำให้มีพื้นที่กว้างขวางยิ่งขึ้น สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มเป็นปีละ 15 ล้านคน วีเอ็นเอกล่าว

การก่อสร้างส่วนต่อขยายท่าอากาศยานนานาชาตินครโฮจิมินห์เริ่มมาตั้งแต่เดือน ส.ค.2547 ออกแบบและก่อสร้างโดยของบริษัทที่ปรึกษาและบริษัทก่อสร้างจากญี่ปุ่น คือ KTOM-Kalima Corp บริษัท Taisei Corporation บริษัท Obayashi Corporation และ บริษัท Maeda Corporation

เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งใหม่ล้วนเป็นเทคโนโลยีญี่ปุ่น

ปัจจุบันท่าอากาศยานเติ่นเซินเญิตมีภาระต้องรองรับเที่ยวบินกับผู้โดยคิดเป็นจำนวนเกือบ 2 ใน 3 ของเที่ยวบินที่บินเข้า-ออกประเทศ จึงเป็นทั้งต้นทางและปลายทางที่วุ่นวายมาตลอด

ที่ผ่านมาได้มีการก่อสร้างเพิ่ม-ขยายท่าอากาศยานแห่งนี้มาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งในปี 2545 ที่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศโดยเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่น 260 ล้านดอลลาร์

การท่าอากาศยานภาคใต้กล่าวว่าในปี 2558 สนามบินลองแท็งจะทำให้เติ่นเซินเญิตเล็กลงไปอย่างถนัด และ ที่นี่จะใช้สำหรับสายการบินในประเทศเท่านั้น

สื่อของทางการรายงานก่อนหน้านี้ว่าท่าอากาศยานแห่งใหม่ จะได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์การบินระดับภูมิภาคอีกแห่งหนึ่งเช่นเดียวกับ ท่าอากาศยานชางงีในสิงคโปร์ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทย

ลองแท็ง หรือ “ลองทัน” ในสำเนียงชาวเวียดนามภาคใต้เคยเป็นฐานทัพอากาศใหญ่ 1 ใน 7 แห่งของสหรัฐฯ ที่นั่นใช้เป็นฐานทัพสำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ บี 52 (B52) ในช่วงสงครามเวียดนาม

เจ้าหน้าที่เวียดนามกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ลองแท็งตั้งอยู่บนที่สูงหมดปัญหาน้ำท่วมและหมดปัญหาเรื่องพื้นดินยุบ เนื่องจากกองทัพสหรัฐฯ สร้างโครงร่างพื้นฐานเอาไว้แน่นหนา ช่วยประหยัดการลงทุนในส่วนนี้อย่างมหาศาล

รัฐบาลเวียดนามประกาศเมื่อต้นปีว่า การก่อสร้างสนามบินลองแท็งจะเริ่มในปีนี้ โดยมีมูลค่าทั้งโครงการราว 6,000 ล้านดอลลาร์

ในเดือน ม.ค.ปีนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้อนุมัติการก่อสร้างเฟสแรกของทางด่วนสายนครโฮจิมินห์-ลองแท็ง รวมระยะทาง 24.7 กม.จาก 55 กม.ตลอดสาย บริษัทการทางพิเศษเวียดนาม (Vietnam Expressway Corporation) จะลงมือก่อสร้างในปีนี้ ด้วยงบประมาณ 226 ล้านดอลลาร์

ทางด่วนโฮจิมินห์-ลองแท็งจะมีความกว้าง 140 เมตรจะเป็นทางสายหลักเชื่อมนครใหญ่ที่สุดกับท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ.
กำลังโหลดความคิดเห็น