xs
xsm
sm
md
lg

น้ำใจจากชาวไทยได้ช่วยชีวิตเด็กๆ ในกัมพูชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#6666CC> เด็กๆ ที่ไปถึงหมอทันเวลาก็โชคดีไป แต่มีคนไข้กว่า 300 คนที่โชคไม่ดี และถึงแก่ชีวิต <FONT></CENTER>
 คลิกชมคลิปการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไทย
 
ดูวีดีโอประกอบจาก Manager Multimedia



เดือน ก.ค.-ส.ค. เป็นช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนของเด็กๆ แต่ ด.ญ.ดุจ ฟัลลี (Phally Duch) ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลแม่และเด็กนานถึง 1 สัปดาห์ แทนที่จะได้ทำกิจกรรมสนุกต่างๆ เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมวัย

ดุชกำลังเรียนชั้นประถมปีที่ 5 ที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเขตรอบนอกกรุงพนมเปญ โชคดีที่ กร ฟัลลี (Phally Korn) คุณพ่อของเธอ ซึ่งเป็นครูโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ เฝ้าติดตามข่าวคราวและรู้เรื่องการระบาดของไข้เลือดออกเป็นอย่างดี

"ดุจเป็นไข้ได้วันเดียวผมก็เริ่มสงสัยแล้ว เพราะย่านที่ผมอยู่มีคนป่วยกันเยอะมาก เด็กๆทั้งนั้น" คุณพ่อของดุจกล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" หลังจากตรวจกลุ่มเลือดที่โรงพยาบาลแห่งนั้น บุตรสาวของกรเป็นคนหนึ่งในจำนวนผู้ป่วยเยาว์วัยที่รอดชีวิต เนื่องจากไปพบแพทย์ทันเวลา

แต่หนูน้อยสุภา เฮง (Heng Sophea) โชคร้าย..

เจ้าหนูวัย 1 ขวบครึ่ง สิ้นใจในวันที่ 5 ก.ค. ที่แผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลแม่และเด็กแห่งชาติกรุงพนมเปญ (National Pediatrics Hospital Phnom Penh)

หนูน้อยสุภาเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ป่วยจำนวนเกือบ 200 คน ที่นอนในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งนั้น ในวันที่มีการรับมอบเวชภัณฑ์ เครื่องมือการแพทย์ และอุปกรณ์ต่อต้านยุงลายจำนวนหนึ่ง ที่รัฐบาลไทยส่งไปสนับสนุน..

เจ้าหนูป่วยมาหลายวันแล้วตอนที่คุณแม่วัย 19 ปีนำส่งโรงพยาบาล เธอมีอาการหนักมาก หมอที่นั่นยังไม่มีโอกาสได้ใช้ความช่วยเหลือจากประเทศไทยด้วยซ้ำ

นั่นเป็นช่วงที่ไข้เลือดออกกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทั้งในเมืองหลวงและจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ

จนถึงวันนี้เวลาผ่านไป 1 เดือนเศษ ไวรัสโรคร้ายนี้ยังคงคุกคามเด็กๆ ในกัมพูชาอย่างไม่หยุดยั้ง จำนวนคนป่วยที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน

"อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกยังสูงถึง 1.5% เมื่อเทียบกับในประเทศเพื่อนบ้านเช่นเวียดนามและไทย" นายแพทย์สุฟัล อึง (Ung Sophal) หัวหน้าแผนกคนไข้ฉุกเฉิน ที่โรงพยาบาลแม่และเด็กฯ กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ทางอีเมล์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

<CENTER><FONT color=#6666CC> คุณยายพาเจ้าตัวเล็กไปพบหมอทันเวลา เพียงข้ามวันก็กลับบ้านได้ เหยื่อไข้เลือดออกในกัมพูชาส่วนใหญ่เป็นเด็กแรกเกิดถึง 11  <FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=#6666CC>  กร ฟัลลี ติดตามข่าวคราวการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก ช่วยลูกสาววัย 11 ขวบได้ทัน <FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=#6666CC> ห้องคนไข้ฉุกเฉินเต็มหมดแล้ว ต้องขยายแผนกไปยังอาคารหลังนี้ซึ่งอยู่คนละฟากอาณาบริเวณ <FONT></CENTER>
"ในนามของตัวผมเอง ของโรงพยาบาลและกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ผมขอขอบคุณความช่วยเหลือจากรัฐบาลและประชาชนไทย ไม่มีความช่วยเหลือนี้สถานการณ์จะย่ำแย่กว่านี้มาก" คุณหมอสุฟัล กล่าว

นพ.สุฟัลผ่านการฝึกอบรมจากโรงพยาบาลราชวิถีเป็นเวลา 1 ปี เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านแม่และเด็ก ที่คุ้นเคยกับประเทศไทยอย่างดี

ตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา นพ.สุฟัล กับคณะแพทย์ของกระทรวง ต้องเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ไปให้ความช่วยเหลือแก่เด็กๆ ในชุมชนที่ต้องการอย่างเร่งด่วน รวมทั้งนำความรู้เกี่ยวกับการกำจัดยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสร้าย ไปเผยแพร่ด้วย

"การป้องกันโรคนี้ต้องเริ่มต้นที่อุปนิสัยของคน ต้องรู้จักกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ต้องไม่ให้ยุงกัด ไม่เช่นนั้นก็ป้องกันได้ยาก" นพ.เสรี หงส์หยก รองอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อกล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" บนเครื่องบินซี-130 ขณะกำลังมุ่งหน้าสู่กรุงพนมเปญต้นเดือนที่แล้ว
<CENTER><FONT color=#663399> ยาเด๊กซ์แตรนผสมในกลูโคส ไม่ควรให้คนไข้ที่อาการหนัก การเพิ่มน้ำตาลในเลือดอาจทำให้ผู้ป่วยช็อกได้ แพทย์จากไทยได้ไปพบเห็นการใช้ยาผิดประเภทเช่นนี้ แต่แพทย์ในกัมพูชากล่าวว่าที่นั่นขาดแคลนทุกอย่าง อาจจะไม่มีทางเลือก <FONT></CENTER>
นพ.สุฟัลเห็นด้วยกับคำกล่าวของ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของไทย

"การแก้ไขวิถีชีวิตประจำวันที่ผู้คนคุ้นเคยมานานเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก จึงทำให้ไข้เลือดออกระบาดได้เร็วมาก"

"โดยพื้นฐานแล้ว ที่นี่ขาดแคลนทุกอย่าง เราขาดยา ขาดอุปกรณ์ป้องกันและรักษา ขาดบุคคลากร เราเจอกับปัญหานี้แทบทุกปี แต่ปีนี้ไม่ปกติ การแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากกว่า" นพ.สุฟัลกล่าว

ในวันที่ 5 ก.ค. จำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นทางการมีประมาณ 130 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 11 ปี ขณะที่ตัวเลขไม่เป็นทางการระบุจำนวนถึง 200 คนเศษ

กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาออกยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตัวเลขผู้เสียชีวิตมีจำนวนสูงกว่า 300 คนและ เหยื่อส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเด็กๆ

องค์การอนามัยโลกได้ออกคำเตือนในสัปดาห์ปลายเดือน ก.ค.ว่า มีแนวโน้มที่ไข้เลือดออกจะแพร่ลามไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในพม่ามีเด็กๆ เสียชีวิตแล้วกว่า 100 ราย ในเวียดนามมีการยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 30 คน และ จำนวนยังเพิ่มขึ้นเรื่อย

ในลาวยังไม่ทราบจำนวนเด็กๆ ที่ตกเป็นเหยื่อไข้เลือดออกทั้งหมด แต่ในแขวงสะหวันนะเขตเพียงที่เดียว มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้กว่า 800 ราย ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.)
<CENTER><FONT color=#6666CC> หัวหน้าแผนกฉุกเฉิน รพ.แม่และเด็กฯ กรุงพนมเปญ ต้อนรับ นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุขของไทย ที่ไปเยี่ยมเยือนเมื่อต้นเดือน ก.ค. <FONT></CENTER>
ด้วยความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศของไทยและกองทัพอากาศ นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้นำคณะพร้อมเครื่องมือ ยาและเวชภัณฑ์อื่นๆ ไปสนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาในการต่อสู้กับไข้เลือดออก

สิ่งของที่นำไปสนับสนุนมีตั้งแต่ทรายอะเบต (abate sand) เครื่องฉีดพ่นยากำจัดยุงลายกับตัวยา เข็มฉีดยากับซีรินจ์นับหมื่นชุด และ ยาเด๊กซ์แตรน (Dextran) ในน้ำเกลือเกือบ 2,000 ถุง

"เด็กซ์แตรนเป็นตัวยาสำคัญใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีอาการหนัก แต่จะต้องใช้ให้ถูกวิธีจึงจะได้ผลดี" นายแพทย์ในคณะของไทยผู้หนึ่งอธิบาย

ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ยังขาดแคลนในกัมพูชา

ที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกันนี้ คณะแพทย์และพยาบาลจากไทยได้เห็นบุคคลากรด้านการแพทย์ให้ยาเด๊กซ์แตรนสูตรที่ผสมในกลูโคสแก่เด็กที่อาการกำลังอยู่ในขั้นหนัก

"การให้เด๊กซ์แตรนมีทั้งคุณประโยชน์และอันตราย..ต้องใช้ให้ถูกด้วย" นายแพทย์ของไทยผู้หนึ่งกล่าว

"ในผู้ป่วยที่มีไข้สูงอยู่แล้ว ควรให้เด๊กซ์แตรนที่ผสมในน้ำเกลือธรรมดา ไม่ควรให้ผสมกลูโคส เมื่อมีน้ำตาลในกระแสเลือดมากขึ้น ผู้ป่วยที่มีอาการหนักอยู่แล้วอาจจะช็อกได้" คุณหมอคนเดียวกันกล่าว
<CENTER><FONT color=#6666CC> ดูเผินราวกับฉากในภาพยนตร์ชุดแรมโบ (Rambo) รมว.สาธารณสุขของไทยผู้มอบ กับ รมว.สาธารณสุขกัมพูชา นายนุธ สุขุม (Nuth Sokhom) ผู้รับ เครื่องพ่นยาปราบยุงลายรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ใช้ได้กับทั้งน้ำและน้ำมันดีเซล  <FONT></CENTER>


ฝ่ายไทยได้เสนอความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ช่วยฝึกอบรมระยะสั้นบุคคลากรด้านการแพทย์ของกัมพูชา เพื่อกลับไปต่อสู้กับเชื้อไวรัสไข้เลือดออก

"การฝึกอบรมบุคคลากรเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาด ยังไม่สามารถจะส่งทีมไปฝึกอบรมในประเทศไทยได้ ต้องขอรอดูให้เหตุการณ์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอีกหน่อย ผมจะหารือเรื่องนี้กับผู้บังคับบัญชาอีกครั้งหนึ่ง" นพ.สุฟัลกล่าวในอีเมล์

"คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามไข้เลือดออก ได้นำยา-เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ได้รับความช่วยเหลือจากประเทศไทยส่งถึงจังหวัดและเมืองที่มีการระบาดของโรคนี้ทั่วประเทศ.. ไม่มีความช่วยเหลือเหล่านี้พวกเราจะแย่กว่านี้มาก" นพ.สุฟัลกล่าว

แต่จนถึงนาทีนี้เชื้อไวรัสร้ายก็ยังคุกคามเด็กๆ ในกัมพูชาอยู่ต่อไป จากยุงลายไปสู่คน สู่ครอบครัว และทุกคนในหมู่บ้าน..
กำลังโหลดความคิดเห็น