xs
xsm
sm
md
lg

ไทยจับมือเพื่อนบ้านกางแผนตั้งสมาคมค้าข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรุงเทพฯ-- เพิ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า 5 ประเทศสมาชิกกลุ่มยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่น้ำโขง หรือ ACMECS ซึ่งได้แก่ ไทย พม่า กัมพูชา ลาวและเวียดนาม ได้ตกลงกันในแผนการก่อตั้งสมาคมผู้ค้าข้าว (rice-trading association) ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายร่วมกันค้าและร่วมกันผลิต ซึ่งประเทศสมาชิกล้วนจะได้รับประโยชน์

ได้มีการหารือแผนการดังกล่าวระหว่างการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่มที่เมืองมัณฑะเลย์ของพม่า ในสัปดาห์ต้นเดือน พ.ค.นี้ ทั้งนี้เป็นรายงานของนิตยสารข่าวรายสัปดาห์ "เมียนมาร์ไทมส์" ฉบับที่กำลังวางแผงในปัจจุบัน

นิตยสารดังกล่าวรายงานเรื่องนี้โดยอ้างคำกล่าวของ นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประทศของไทย ระหว่างการประชุมที่เมืองมัณฑะเลย์

"สมาชิกแอ็คเม็คส์ทั้งหมดล้วนเป็นประเทศผู้ผลิตข้าว ดังนั้นการสร้างเสริมความร่วมมือเกี่ยวกับพืชที่สำคัญนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเราทุกคน" เมียนมาร์ไทมส์อ้างคำกล่าวของ รมว.การต่างประเทศของไทย

ในปัจจุบันไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ติดตามด้วยเวียดนาม ซึ่งที่ผ่านมามีการแข่งขันกันด้านราคาอย่างสูง แม้จะมีความพยายามร่วมมือระหว่างภาคเอกชนด้วยกัน แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ทั้งหมด

เมื่อปีที่แล้ว นายฮุนเซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เป็นผู้นำในกลุ่ม ACMECS คนล่าสุดที่ออกรณรงค์ให้มีความร่วมมือระหว่างประเทศผู้ส่งออกข้าว เพื่อสร้างพลังต่อรองในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งต่อรองกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบ หรือ โอเปก (OPEC) ด้วย

ในปี 2549 เป็นปีที่กัมพูชาที่มีประชากร 14 ล้านคนเศษ สามารถผลิตข้าวได้มากเป็นประวัติการณ์ และ รัฐบาลมีความพยายามที่จะผลิตให้ได้มากยิ่งขึ้นในปีนี้ เพื่อให้สามารถส่งออกได้โดยไม่กระทบความมั่นคงด้านอาหารในประเทศ

ส่วนในพม่ายังผลิตข้าวได้น้อย และรัฐบาลควบคุมทั้งการจำหน่ายภายในประเทศและการส่งออก แต่หลายฝ่ายก็ได้เห็นศักยภาพของประเทศนี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก

ดร.มี้นต์เต็ง (Myint Thein) ประธานสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตร ป่าไม้ ปศุสัตว์และการประมงแห่งพม่า (Myanmar Academy of Agricultural, Forestry, Livestock and Fisheries Sciences) กล่าวกับเมียนมาร์ไทมส์ว่า การร่วมมือรวมพลังกันก่อตั้งสมาคมดังกล่าวขึ้นมาจะเป็นประโยชน์ต่อการผลิตข้าวในพม่าทั้งการยกระดับคุณภาพข้าว การเพิ่มผลผลิต และ การสี

ดร.หม่องหม่องโซ (Maung Maung Zoe) ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจอีกคนหนึ่งให้ความเห็นว่า พม่าควรจะเข้าร่วมในสมาคมการค้าข้าวดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้ข้าวจากประเทศนี้ได้รับความสนใจจากตลาดโลก

"ผมนึกเหตุผลไม่ออกว่า ทำไมพม่าจึงจะไม่เข้าร่วมสมาคมนี้" ดร.โซกล่าว

เมียนมาร์ไทมส์รายงานขณะเดียวกันว่า ไทยกับพม่าอาจจะสามารถลงนามในสัญญาทวิภาคีฉบับหนึ่งในปลายปีนี้ เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ โดยอาจจะมีขึ้นในช่วงประชุมผู้นำ ACMECS ในกรุงฮานอย

นิตยสารกึ่งทางการในพม่าฉบับนี้รายงานเรื่องราวดังกล่าวโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงการต่างประเทศของไทยผู้หนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุด้วยว่านักลงทุนจากไทยกำลังมีแผนที่จะเข้าลงทุนด้านการเกษตรในพม่ามากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากแขนงการพลังงาน

ผู้นำกลุ่ม ACMECS กำลังจะนัดประชุมเจรจากันในกรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 22-26 ต.ค.ปีนี้

กำลังจะเป็นครั้งแรกที่มีการทำสัญญาการการค้าและการคุ้มครองการลงทุนระหว่างไทยกับพม่า หลังจากนักลงทุนไทยได้เข้าลงทุนในประเทศนี้เพิ่มมากขึ้นทุกปีในช่วงหลายปีมานี้

สัญญาดังกล่าวยังจะเป็นหลักประกันให้แก่การลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำเกษตรพันธสัญญา (contract-farming) ที่รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนส่งเสริมอีกด้วย

ตามตัวเลขที่เป็นทางการ จนถึงเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว นักลงทุนจากไทยได้เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในพม่า ด้วยเงินทุนรวม 7,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นกว่า 53% ของเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด

อย่างไรก็ตามการลงทุนส่วนใหญ่ของไทยกระจุกตัวอยู่ในแขนงการสำรวจขุดเจาะก๊าซและน้ำมันดิบ ขั้นต่อไปบริษัทอุตสาหกรรมการเกษตรจากไทยจะมุ่งหน้าเข้าไปใช้ผืนดินในพม่า ปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่นเดียวกันที่กำลังดำเนินอยู่ในลาวปัจจุบัน

ตามการตกลงหลังการประชุมผู้นำ ACMECS ในปี 2546 ที่เมืองพุกาม พม่ากับไทยได้บรรลุข้อตกลงในหลักการ ที่จะร่วมมือกันเกี่ยวกับการลงทุนแบบเกษตรพันธสัญญา โดยภาคเอกชนไทยจะจัดเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และ ความรู้ ให้เกษตรกรพม่าดำเนินการปลูกและดูแล ฝ่ายไทยรับซื้อผลผลิตในราคายุติธรรม

เมียนมาร์ไทมส์ได้อ้างคำกล่าวของ รมว.การต่างประเทศของไทย ในตอนหนึ่งว่า รัฐบาลไทยพร้อมจะพิจารณาลดภาษีให้แก่สินค้าการเกษตรที่นำเข้าจากกลุ่ม ACMECS ในความพยายามที่จะส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนไทย

"ประเทศไทยพร้อมเสมอที่จะพิจารณาลดภาษีหรือกระทั่งยกเลิกภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าการเกษตรภายใต้โครงการเกษตรพันธสัญญา.." เมียนมาร์ไทมส์ อ้างคำกล่าวของ รมว.การต่างประเทศไทย

นายนิตย์ ยังกล่าวอีกว่าไทยสนใจที่จะสร้างความคืบหน้าแผนการต่างๆ ภายใต้ ACMECS ที่จะส่งเสริมนักลงทุนจากไทย เข้าลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียววดี ในรัฐกะยา ที่อยู่ติดกับเขตแดนไทยอีกด้วย

"อย่างไรก็ตามแผนการ (ลงทุน) ส่วนใหญ่ยังไม่มีความคืบหน้า เราจะต้องมองหาว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ให้มีความคืบหน้าล่าช้า" นายนิตย์กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น