กรุงฮานอย ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องอากาศเป็นพิษ อันเนื่องมาจากไอเสียรถยนต์ จักรยานยนต์ และจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ผลการวิจัยล่าสุดได้พบว่า คนในเมืองหลวงเวียดนามช่วยกันสูดไอเสียที่ประกอบด้วยก๊าซเป็นพิษชนิดต่างๆ เข้าไปปีละประมาณ 80,000 ตัน
การสำรวจวิจัยร่วมกันระหว่างแผนกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกรุงฮานอย กับสถาบันเคมีแห่งชาติ ได้พบสถิติที่สามารถพยากรณ์ได้ว่า หากไม่มีการแก้ไขใดๆ ภายในปี 2553 นี้ ปริมาณก๊าซพิษตามย่านสี่แยกใหญ่หลายแห่งที่การจราจรติดขัดอย่างหนัก จะเพิ่มขึ้น 7-9 เท่าตัวของปริมาณมาตรฐานที่ยอมรับได้
ผู้ใช้รถใช้ถนน กล่าวว่า แม้จะใช้ผ้าคาด หรือสวมหน้ากากกันไอเสียแล้ว ก็ยังคงรู้สึกระคายหรือแสบคอ จมูก เนื่องจากควันพิษหนาแน่นมาก ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวเดิ่นจิ (Dan Tri) ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่นักศึกษาและคนหนุ่มสาววัยทำงาน
ปัจจุบันในกรุงฮานอย กับอาณาบริเวณโดยรอบ มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่กว่า 400 แห่ง ในนั้นกว่า 200 แห่ง สามารถสร้างมลพิษในอากาศได้ นอกจากนั้น ยังมีจักรยานยนต์กว่า 1.6 ล้านคัน รถยนต์ กับยวดยานชนิดต่างๆ ราว 100,000 คัน
ตามสถิติขององค์การอนามัยโลก มีผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากมลพิษทางอากาศ ปีละ 2.8 ล้านคนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในเวียดนามยังไม่มีการเก็บรวบรวมสถิติในเรื่องนี้
ทางการกรุงฮานอย กำลังคิดแผนการรณรงค์การใช้รถจักรยานอย่างเป็นมิตร กับสภาพแวดล้อม รวมทั้งหาทางลดจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมในเขตเมืองหลวงลง เพราะยังไม่มีหนทางอื่นในการแก้ไข
นายด่าวถายฮุ่ง (Dao Thai Hung) แห่งโครงการเพื่ออากาศสะอาด ซึ่งเป็นเอ็นจีโอเวียดนาม-สวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า การขับขี่อย่างเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมมีวิธีการง่ายๆ คือ สตาร์ทเครื่องแล้วอุ่นเครื่องจนร้อนก่อนออกสู่ท้องถนน ไม่ขับเร็ว และไม่เบรกกะทันหัน
การสำรวจวิจัยยังพบอากาศเป็นพิษในปริมาณสูงในอีก 2 นครของประเทศ คือ โฮจิมินห์ กับ ด่าหนัง (Danang) ด้วยสาเหตุแบบเดียวกันนี้