xs
xsm
sm
md
lg

ยักษ์ขนส่งโลก TNT เข้าเวียดนามทะลุจีน-ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



กรุงเทพฯ-- บริษัททีเอ็นที (TNT) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุด่วนรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ประกาศแผนการขยายเครือข่ายครอบคลุมทางธุรกิจในเอเชียเข้าสู่เวียดนาม เพื่อใช้เป็นศูนย์ขนส่งเชื่อมกับจีน-ไทยและทั่วอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการใช้ทางหลวงเลข 9 เข้าสู่ลาว และไทย

บริษัท TNT กล่าวว่า กำลังจะเป็นเจ้าแรกที่เข้าพัฒนาศักยภาพของทางหลวงสายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) หรือ EWEC แห่งนี้

ทีเอ็นทีได้ประกาศแผนการเพิ่มการลงทุนอีก 4.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม ทำให้การลงทุนของบริษัทนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 5.8 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

บริษัทนี้ได้ประกาศขยายแผนให้บริการ Asia Road Network เข้าสู่จีนโดยผ่านภาคเหนือเวียดนาม ซึ่งหมายถึงการให้บริการขนส่งทางบกข้ามแดนเวียดนาม-จีน เป็นครั้งแรกภายในสิ้นปีนี้

เมื่อจัดตั้งเครือข่ายดังกล่าวแล้วเสร็จ ข่ายการให้บริการของ TNT ในภูมิภาคนี้ก็จะครอบคลุมประมาณ 60% ของภูมิภาค เชื่อมต่อกว่า 120 ตัวเมือง รวมระยะทาง 4,000 กิโลเมตร บริษัทนี้ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกในวันพุธ (16 พ.ค.)

การเข้าสู่เวียดนามของบริษัทขนส่งสินค้าด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ ยังมีขึ้นในขณะที่การลงทุนของต่างชาติในเวียดนามเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี ทั้งด้านจำนวนโครงการและจำนวนเงินทุน ซึ่งจะทำมีความต้องการระบบขนส่งสินค้าและพัสดุด่วน เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนั้นการขยายข่ายบริการของทีเอ็นทีก็ยังมีขึ้นในขณะที่ ทั้งภายในเวียดนามเองและนักลงทุนต่างชาติ กำลังทุ่มเข้าลงทุนพัฒนาระบบกระจายสินค้าและ ลอจิสติกในประเทศนี้ รวมทั้งการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก และ ท่าคอนเทนเนอร์สินค้า ทั้งในนครโฮจิมินห์ บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tao) นครหายฟ่อง (Hai Phong) และ ปลายทางสำคัญอื่นๆ ในภาคกลางของประเทศ

กลุ่มทีเอ็นทีได้เริ่มแผน Asia Road Network ตั้งแต่ปี 2548 เชื่อมมาเลเซีย สิงคโปร์และไทย โดยใช้ระบบ 24x7 Real-Time GPS หรือ Global Positioning Satellite ในการติดตามและสื่อสารกับรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ในเครือข่าย

บริการของทีเอ็นทีเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการลูกค้ากลุ่มที่ส่งสินค้าราคาสูง ประเภทเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์

ทีเอ็นทีกล่าวว่า บริการขนส่งทางรถยนต์ของบริษัทนั้น มีความรวดเร็วกว่าการขนส่งทางทะเล 2-3 เท่า แต่ขณะเดียวกันลูกค้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับการขนส่งทางอากาศ 30% มีการรับประกันสินค้าถึงประตูบ้าน และยังสามารถติดตามความคืบหน้าได้ทุกเวลาอีกด้วย

"การขยายเข้าสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงของทีเอ็นทีนั้น เป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนาม" นายออนโน บูตส์ (Onno Boots) กรรมการผู้จัดการภาคพื้นของ TNT Southeast Asia กล่าว

ทีเอ็นทีมีชื่อเสียงและได้รับความเชื่อถืออย่างสูงในการต่อเชื่อมปลายทางต่างๆ ทั่วยุโรป โดยให้บริการผสมผสานระหว่างการส่งทางบก ทางเรือและทางอากาศเข้าด้วยกัน ปัจจุบันได้หันมาให้ความสนใจบริการในเอเชีย ทั้งภายในภูมิภาคและบริการขนส่งสินค้าพัสดุด่วนไปยังยุโรปอีกด้วย

นายบูตส์กล่าวอีกว่า การขยายเครือข่ายเข้าสู่เวียดนาม เป็นไปตามยุทธศาสตร์การขยายบริการเข้าสู่ทวีปเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่เกิดใหม่ต่างๆ ในภูมิภาค

เมื่อเร็วๆ นี้ ทีเอ็นทีได้เข้าซื้อกิจการการขนส่งพัสดุด่วนในจีน (Hoau) และอินเดีย (Speedage) อันเป็นส่วนหนึ่งในการสนองนโยบายขยายเครือข่ายอย่างรวดเร็วออกทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทมีรายรับเพิ่มขึ้น 10-15% ในปี 2550 นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแขนงบริการขนส่งสินค้า-พัสดุด่วน

การขยายข่ายบริการเข้าสู่เวียดนามจะทำให้ทีเอ็นที เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่จะได้ใช้ถนนสายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ที่เชื่อมเวียดนามเข้ากับลาว ไทย กับ แผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด รวมทั้งจีนด้วย ยกเว้นเพียงพม่าปลายทางเดียวเท่านั้น

การลงทุนของต่างชาติในเวียดนามขยายตัวเกือบ 40% เมื่อปีที่แล้ว รวมเป็นเงินทุน 10,200 ล้านดอลลาร์ในสิ้นปี 2549 ประเทศนี้ตั้งเป้าดึงดูดการลงทุนให้ได้ปีละ 10,000-12,000 ดอลลาร์ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า

การเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกเมื่อเดือน ม.ค. ทำให้เวียดนามเชื่อว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเป็นยุคใหม่ด้านการค้ากับต่างประเทศ ที่จะขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง

เวียดนามตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจเอาไว้ 8.2-8.3% ในปี 2550

อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุด่วนรายอื่น รวมทั้งเฟดเดอรัลเอ็กซ์เพรส (FedEx) ก็ได้ขยายข่ายการให้บริการในเวียดนามแล้วเช่นเดียวกัน ขณะที่เวียดนามเองกำลังปรับปรุงเส้นทางคมนาคมทางบกอย่างกว้างขวาง

เวียดนามได้ประกาศโครงการก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมภาคเหนือ-ภาคใต้ ทั้งหมดกำลังจะเริ่มขึ้นในช่วงปีนี้เป็นต้นไปจนถึงปี 2558

กลุ่มรัฐวิสาหกิจขนส่งทางเรือก็เพิ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับแผนการลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ พัฒนาระบบขนส่งทางทะเลตลอดแนวชายฝั่งความยาว 3,000 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นการพัฒนาระบบกระจายสินค้าและลอจิสติกครั้งใหญ่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์ ออฟ ลอนดอน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลกได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดขึ้นในภาคใต้เวียดนามเวียดนาม เพื่อให้บริการทั้งในประเทศและขนส่งสินค้าเชื่อมกับอีก 18 ประเทศทั่วเอเชียจนถึงออสเตรเลีย.
กำลังโหลดความคิดเห็น