ตั้งหน่วยพิทักษ์หมี.. หวั่นถูกล่าหมดป่ากัมพูชา

ในกัมพูชาได้มีการฝึกหน่วยลาดตระเวนกว่า 20 นาย เพื่อทำหน้าที่พิทักษ์หมีสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีชุกชุมในเขตวนอุทธยานของประเทศ แต่กำลังถูกไล่ล่าเพื่อตัดชิ้นส่วนส่งป้อนตลาด

นับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดตั้งหน่วยพิทักษ์หมีขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุน Free the Bears Fund กับ องค์การ Conservation International หน่วยงานที่ไม่สังกัดรัฐบาล หรือ เอ็นจีโอ จากออสเตรเลีย กับสวนสัตว์เมืองเพิร์ธ

การฝึกอบรมมีขึ้นตลอดสัปดาห์ที่แล้วจนสิ้นสุดลงในวันศุกร์ โดยเริ่มจากสวนสัตว์ที่เขาตะเมา (Phnom Tamao Zoo) และที่ศูนย์กู้ภัยสัตว์ป่า ซึ่งกำลังดูแลหมีที่ได้รับการช่วยเหลือให้รอดจากเงื้อมมือของพรานป่าจำนวนมาก

หน่วยลาดตระเวนจะเรียนรู้หลายอย่างเกี่ยวกับหมีในธรรมชาติ และยังจะต้องเดินทางไปศึกษาอบรมในอีกหลายสถานที่

สวนสัตว์เขาตะเมาอยู่ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางทิศใต้ราว 50 กิโลเมตร



นอกจากหน่วยลาดตระเวนจะได้รับประสบการณ์ตรงแล้ว ยังจะได้รับฟังการบรรยายของบรรดาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับหมีจากทั่วโลก รวมทั้งนายโรเบิร์ต สไตน์เมตซ์ (Robert Steinmetz) จากกองทุนเพื่อสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund) จากประเทศไทยอีกด้วย

เมื่อเร็วๆ นี้ นายสไตน์เมตซ์ประสบความสำเร็จในการศึกษาร่องรอยธรรมชาติ ในการระบุว่าเป็นหมีควาย (Asiatic Black Bear) หรือ หมีหมา (Malayan Sun bear) โดยสังเกตจากความแตกต่างของกรงเล็บที่พวกมันฝากไว้ตามเปลือก ซึ่งได้ช่วยให้เจ้าหน้าที่วนอุทธยานต่างๆ สามารถ ปฏิบัติงานได้โดยสะดวก

หมีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่ไม่นอน แต่ละปียังมีหมีถูกล่าจำนวนมากในภูมิภาคนี้ เพื่อส่งชิ้นส่วนต่างๆ ป้อนตลาดในเอเชียตะวันออกที่นิยมบริโภคโดยเชื่อกันว่า มันเป็นยาอายุวัฒนะ

ประชากรหมีควายขนาดใหญ่ กับหมีหมาอีกจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ในเขตป่ากัมพูชา แต่ทั้งสองสายพันธุ์นี้กำลังอยู่ภายใต้ความเสี่ยงจนอาจจะสูญพันธุ์ได้ เป็นสัตว์ที่ถูกจัดเอาไว้ใน "สมุดปกแดง" ของ (World Conservation Union)

ทั่วโลกมีหมีอยู่ประมาณ 8 สายพันธุ์ (species) ด้วยกัน ในนั้นมี 6 สายพันธุ์อยู่ในเอเชีย พวกมันยังเป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ที่ยังมีการศึกษากันน้อยที่สุด ต่างจากเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์จำพวกเสือที่มีการศึกษาวิจัยกันแบบทะลุปรุโปร่ง

ในจีนมีหมีควายอยู่ราว 10,000 ตัว และในเวียดนามมีราว 4,000 ตัว ถูกกักขังอย่างทรมานในกรงเล็กๆ แคบๆ ตามครัวเรือ เพื่อเจาะและดูดเอาน้ำดีของมันไปใช้เป็นยาแผนโบราณ.