xs
xsm
sm
md
lg

ไทย-ลาวเซ็น 320 ล้านปรับปรุงสนามบินปากเซ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#009933>   ช่วยเพื่อนบ้าน--- เอกอัครราชทูต สปป.ลาวประจำประเทศไทย นายอ้วน พมมะจัก (กลาง) ร.ท.นพดล พันธุ์กระวี ผู้อำนวยการ สพพ. (ที่ 4 จากขวา) นายมนู เลี่ยวไพรัตน์ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานกรรมการ สพพ.นายธราธิป อุปัติศฤงค์ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจ (ที่ 2 จากขวา) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของไทยและลาวหลังพะธีแถลงข่าวเซ็นสัญญาเงินกู้เมื่อวันอังคาร (24 เม.ย.) นี้  </FONT></CENTER>

ผู้จัดการรายวัน-- ผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนชาวกับรัฐบาลไทยได้ร่วมกันลงนามในสัญญาเงินกู้และเงินช่วยเหลือมูลค่ารวม 320 ล้านบาท ในวันอังคาร (24 เม.ย.) ที่ผ่านมา เพื่อช่วยฝ่ายลาวพัฒนาสนามบินปากเซให้สามารถรองรับเครื่องบินโดยสารขนาดที่ใหญ่ขึ้น

รัฐบาลลาวได้ขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้จากรัฐบาลไทยเมื่อปีที่แล้ว คณะรัฐมนตรีของไทยเพิ่งจะอนุมัติในวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่า จะเป็นประโยชน์ต่อการไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชน รวมทั้งประโยชน์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ

รัฐบาลลาวกำลังจะพัฒนายกระดับสนามบินเมืองปากเซขึ้นเป็นสนามบินที่ได้มาตรฐานโลกอีกแห่งหนึ่งในภาคใต้ของลาว จะสามารถรับการขึ้นลงของเครื่องบินโดยสารขนาดโบอิ้ง 737-400 แอร์บัส A321 หรือ A321 หรือ ฟ๊อคเกอร์ 70 (Fokker 70) ที่สามารถขนส่งผู้โดยสารตั้งแต่ 150 ที่นั่งขึ้นไป

ในปัจจุบันสนามบินเมืองปากเซสามารถรองรับได้แค่เครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก ขนาด ATR72 กับ แอนโตนอฟ (Antonov) รวมทั้ง MA60 ที่ผลิตในจีนด้วย ทั้งหมดนี้บรรทุกผู้โดยสารระหว่าง 50-70 ที่นั่ง

การเซ็นสัญญามีขึ้นระหว่างนายอ้วน พมมะจัก เอกอัครราชทูต สปป.ลาวประจำประเทศไทย กับ ร.ท.นพดล พันธุ์กระวี ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) ซึ่งเป็นองค์กรมหาชน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง

"ในนามรัฐบาลและประชาชนไทย ข้าพเจ้าขอขอบใจในความช่วยเหลือจากรัฐบาลและประชาชนชาวไทยในครั้งนี้" เอกอัครราชทูตลาวกล่าวระหว่างการแถลงข่าว

คณะรัฐมนตรีของไทยได้ให้ความเห็นชอบในหลักการและรายละเอียด การให้ความช่วยเหลือแก่ สปป.ลาวเป็นวงเงิน 320 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นเงินกู้ดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี เป็นระยะเวลา 30 ปี และมีระยะปลอดหนี้ 10 ปี รวมเป็นเงิน 224 ล้านบาท กับเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าอีก 96 ล้านบาท

มติของ ครม.ยังระบุให้ต้องใช้บริษัทที่ปรึกษาและบริษัทก่อสร้างของไทยที่เชื่อถือได้ รวมทั้งการซื้อสินค้าและบริการ ไม่ต่ำกว่า 50% ของมูลค่าวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง
<CENTER><FONT color=#009933> ภาพแฟ้ม-- สนามบินเมืองปากเซในเดือน มี.ค.2549 ที่นี่กำลังกลายเป็นฮับการบินในภาคใต้ของลาว เชื่อมต่อกับประเทศไทยกัมพูชา และ เวียดนามภาคกลาง-ภาคใต้ ในอนาคต  </FONT></CENTER>
เอกสารแถลงข่าวของ สพพ.ที่ออกในวันเดียวกันระบุว่า "นอกจากจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของสนามบินให้ได้มาตรฐานสากลแล้ว ยังเป็นการอำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางและการขนส่งระหว่าง สปป.ลาวและประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวในพื้นที่ตอนใต้ของ สปป.ลาว.."

เมืองปากเซเป็นเมืองเอกของแขวงจำปาสักทางตอนใต้สุดของประเทศ มีอาณาเขตติดกับ จ.อุบลราชธานีของไทย ซึ่งตัวเลขการค้าขายข้ามแดนในแถบนี้เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าการเกษตรจากลาวหลายสิบรายการ ที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากการยกเว้นภาษีขาเข้า
จากฝ่ายไทย

เจ้าหน้าที่ของทางการลาวกล่าวก่อนหน้านี้ว่า แผนการพัฒนายกระดับสนามบินปากเซจะประกอบด้วย การเสริมความแข็งแกร่งรันเวย์ ราดยางมะตอยหนา 0.12 ม. ขยายความยาวจาก 1,625 เมตรในปัจจุบันเป็น 2,400 ม. และ ขยายความกว้างจาก 36 ม. เป็น 52 ม. รวมทั้งขยายลานจอดเครื่องบินให้สามารถรองรับเครื่องบินโบอิ้ง 737 เข้าจอดได้ถึง 2 ลำ รวมทั้งสร้างหอบังคับการบินสูง 29 ม.

"ภายหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ สนามบินปากเซก็จะกลายเป็นสนามบินที่ได้มาตรฐานระดับสากล" นายสมบูน จะเลินลิด เจ้าหน้าที่แผนกการบินพลเรือนแขวงจำปาสัก ผู้รับผิดชอบดูแลโครงการ กล่าวในเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว

โครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของรัฐบาลลาวที่ต้องการยกระดับด้านบริการการบินของประเทศให้มีมาตรฐาน ครอบคลุมถึงสนามบินหลวงน้ำทาที่กำลังดำเนินการปรับปรุงอยู่ในปัจจุบัน ส่วนการปรับปรุงสนามบินหลวงพระบาง สนามบินสะหวันนะเขต คาดว่าจะเริ่มในปี 2551

สปป.ลาวยังมีโครงการก่อสร้างสนามบินใน 5 แขวงภาคเหนือ ได้แก่ในแขวงไซยะบุลี เซียงขวาง อุดมไซ หัวพัน และบ่อแก้ว ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว

สายการบินแห่งชาติของลาวได้เปิดเส้นทางบินหลวงพระบาง-ปากเซ ในปลายเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ขณะเดียวกันก็ได้เปิดเส้นทางบินเชื่อมปากเซ-เสียมราฐ ในกัมพูชา ตามแผนการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก คือ เมืองเก่าหลวงพระบาง-วัดพูจำปาสัก กับ ปราสาทหินนครวัด ช่วยให้นักท่องเที่ยวประหยัดเวลาเดินทาง มีเวลาท่องเที่ยวมากขึ้น

การพัฒนาสนามบินเมืองปากเซยังเป็นประโยชน์โดยตรงต่อธุรกิจการบินของไทย ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส "บูติคแอร์ไลนส์" ของเอกชนไทยได้เปิดบินกรุงเทพฯ-ปากเซ สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน และ ยังร่วมกับสายการบินเสียมราฐแอร์ บินต่อไปยังถิ่นปราสาทนครวัดในวันเดียวกัน

ตามรายงานของสื่อทางการลาว ปัจจุบันทั่วแขวงจำปาสักมีสถานที่ท่องเที่ยวกว่า 100 จุด โดยมีปราสาทหินวัดพู น้ำตกตาดคอนพะเพง น้ำตกหลี่ผี และดินแดน 4,000 เกาะ ที่มีทัศนียภาพสวยงาม เป็นหลัก

เมืองปากเซได้กลายเป็นชุมทางของการเดินทางท่องเที่ยวในภาคใต้ของลาว เป็นศูนย์กลางติดต่อกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทย รถรถบัสโดยสารปะจำทางไปยัง จ.อุบลราชธานี และ ไปยังเมืองกวีเญิน (Quy Nhon) เมืองเอกของ จ.บิ่งดิง (Binh Dinh) ในภาคกลางเวียดนาม

ขณะเดียวกันในกัมพูชาก็กำลังมีการพัฒนาหลวงเลข 6 จาก จ.กระแจ๊ะ (Kratie) ในภาคตะวันออกไปยัง จ.สะตึงแตร็ง (Stung Treng) หรือ "เชียงแตง" ที่มีชายแดนติดกับแขวงจำปาสัก เมื่อเปิดใช้การได้ในปลายปี 2551 ก็จะสามารถเดินทางจากปากเซเข้าสู่กัมพูชาหรือไปยังนครโฮจิมินห์ของเวียดนามโดยทางบกได้อีกด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น