ผู้จัดการรายวัน-- คณะกรรมการประชาชน จ.เกียนยาง (Kien Giang) ได้เสนอต่อกระทรวงแผนการและการลงทุน ให้มีการเปิดบินเชื่อมเกาะฟุก๊วกกับประเทศเพื่อนบ้านคือ ไทย กัมพูชา ลาวและสิงคโปร์ อันเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเกาะอ่าวไทยแห่งนี้ให้เป็น "ไข่มุกแห่งเอเชีย"
ปัจจุบันมีเที่ยวบินของการบินเวียดนามจากนครโฮจิมินห์และเมืองแร๊กหยา (Rach Gia) ไปยังเกาะฟุก๊วก วันละหลายเที่ยวบิน ข้อเสนอใหม่นี้ได้ขอให้รัฐบาลเปิดรับเที่ยวบินของสายการบินอื่นๆ จากประเทศเพื่อนบ้านด้วย
ปัจจุบันสนามบินฟุก๊วกรับได้เพียงเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กระดับ ATR72 แต่ทางการกำลังเร่งการก่อสร้างสนามบินเดื่องโต๋ (Duong To) สนามบินแห่งใหม่ที่จะสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ถึงระดับโบอิ้ง 767
ตามรายงานของสำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรส สนามบินเดื่องโต๋จะมีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ (800 เฮกตาร์) จากการลงทุนร่วมกันของบริษัทเอกชนสหรัฐฯ อังกฤษและเยอรมนี ด้วยมูลค่าก่อสร้าง 187.5 ล้านดอลลาร์ รับผู้โดยสารได้ปีละประมาณ 1 ล้านคน
ตามแผนแม่บทการพัฒนาเกาะฟุก๊วกที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลในเดือน ก.พ.ปีนี้ สนามบินเดื่องโต๋จะเป็น "ประตูเข้าประเทศ" อีกแห่งหนึ่ง เช่นเดียวกันกับท่าเรืออันเทย (An Thoi) ที่จะเป็นประตูเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ทางด้านอ่าวไทย
สนามบินกับท่าเรือที่ได้มาตรฐานโลกเป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนาเกาะใหญ่แห่งนี้ให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศขนาดใหญ่ของโลก ขณะเดียวกันก็อาจจะเป็นศูนย์การเงินแห่งใหม่ของภูมิภาคในช่วง 10 ปีข้างหน้า
นายเหวียนซิงหุ่ง (Nguyen Sinh Hung) รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้จะใช้เวลาจนถึงปี 2563 ในการพัฒนาเกาะอ่าวไทยแห่งนี้ให้เป็นปลายทางท่องเที่ยวขึ้น เทียบชั้นบาหลีในอินโดนีเซีย และเกาะภูเก็ต ในฝั่งทะเลอันดามันของไทยไม่ว่าจะต้องใช้เงินทุนมากมายขนาดไหน
นายบุ่ยหง็อกเซือง (Bui Ngoc Suong) ประธานคณะกรรมการประชาชน จ.เกียนยาง (Kien Giang) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) เมื่อเดือนที่แล้วว่า มีโครงการลงทุนบนเกาะฟุก๊วกกว่า 100 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เมื่อต้นปีนี้มีนักลงทุนรายใหญ่เสนอพัฒนาชายฝั่งครบวงจร ร่วมทั้งท่าเรือ โรงแรม 5 ดาว พร้อมศูนย์การประชุม สถานกาสิโน รวมทั้งเสนอก่อตั้งศูนย์การเงินโพ้นทะเล (Offshore Financial Center) ที่มีขนาดใหญ่ระดับภูมิภาค แต่ เวียดนามไม่ค้นเคยกับโมเดลการลงทุนแบบนี้
เมื่อปีที่แล้วกลุ่มร๊อกกิงแฮม (Rockingham Group) จากสหรัฐฯ ได้ประกาศการลงทุนก่อสร้างโรงแรมหรูและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว พร้อมสถานบันเทิงต่างๆ ครบครัน บนเนื้อที่กว่า 6,200 ไร่ เงินทุนกว่า 1,000 ล้าน
กองทุนร่วมทุนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์ กับเวียดนามแห่งหนึ่งได้เสนอก่อสร้างศูนย์การเงินและโรงแรมระดับ 5 ดาว อีก 1 หลังมูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์
จังหวัดเกียนยางได้สงวนที่ดินบนเกาะฟุก๊วกจำนวนมากเพื่อให้เป็นเขตวนอุทยานแห่งชาติ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งสัตว์ป่าและพืชพรรณต่างๆ
เขตน่านน้ำที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางรอบๆ จะได้รับการประกาศให้เป็นวนอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังใกล้ชายฝั่ง ซึ่งยังอยู่ในสภาพอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเจริญพันธุ์ของสัตว์น้ำหลากชนิด มีธรรมชาติใต้น้ำที่งดงาม เหมาะแก่การพัฒนาให้เป็นแหล่งดำน้ำระดับโลก
รอบๆ เกาะฟุก๊วก ยังมีหาดทรายที่ยังบริสุทธิ์ความยาวหลายร้อยกิโลเมตร เชื่อกันว่าแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆ เหล่านี้จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวประเภทเช่าเหมาลำ (chartered flight) ได้.