กรุงเทพฯ-- กลุ่มที่ปรึกษาด้านการเงินโนมูระจากญี่ปุ่นได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษาของ บรรษัทเงินลงทุนแห่งรัฐเวียดนาม หรือ SCIC (State Capital Investment Corporation) ทำหน้าที่ดูแลการขายหุ้นของรัฐบาลในรัฐวิสาหกิจ และ บริษัทต่างๆ ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้และปีข้างหน้า ในแผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจครั้งใหญ่ของรัฐบาล
การลงนามในบันทึกช่วยความจำเพื่อความเข้าใจหรือ MoU ระหว่างสองฝ่ายจัดขึ้นในกรุงฮานอยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ “เถยบ่าวกิงเตเหวียดนาม” (Thoi Bao Kinh Te Vietnam) หรือ "ข่าวเศรษฐกิจรายวัน" ฉบับภาษาเวียดนามในนครโฮจิมินห์
ไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดในความตกลง รวมทั้งตัวเลขค่าจ้างที่กลุ่มที่ปรึกษาจากญี่ปุ่นจะได้รับ แต่คาดว่าจะเป็นเงินมหาศาลเมื่อเทียบกับงานที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สื่อของทางการายงานแต่เพียงว่า "โนมูระจะทำให้หน้าที่ให้การปรึกษาแก่ SCIC เกี่ยวกับการจัดการ และการลงทุนในรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่อยู่ในสังกัด เพื่อเร่งการปฏิบัติแผนการปรับโครงสร้างและแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่างๆ เหล่านั้น รวมทั้งจัดการฝึกอบรมในแขนงที่เกี่ยวข้อง" อีกด้วย
อย่างไรก็ตามนี่เป็น MoU ฉบับที่ 7 ที่บรรษัทเงินลงทุนแห่งรัฐ เซ็นกับหุ้นส่วนต่างชาติในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในแผนการที่จะนำรัฐวิสาหกิจเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
โนมูระ เป็นกลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น การที่ SCIC จับมือกับสถาบันการเงินชั้นนำแห่งนี้ ก็เพื่อจะพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการและการควบคุมความเสี่ยงจองบรรดารัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่รัฐบาลเวียดนามถือหุ้นใหญ่ สื่อของทางการกล่าว
นายโนบุกิ โกงะ (Nobuki Koga) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโนมูระโฮลดิ้งส์ (Nomura Holdings) กล่าวว่า โนมูระกำลังขยายกิจกรรมและพัฒนาธุรกิจในประเทศต่างๆ ในเอเชีย หลังจากเข้าทำธุรกิจในเวียดนามมานาน 121 ปี บัดนี้ถึงเวลาที่จะต้องขยายขอบเขตไปสู่ด้านต่างๆ อย่างหลากหลาย
ส่วน นางเลถิบ่างเติม (Le Thi Bang Tam) ประธาน SCIC กล่าวว่า บรรษัทของรัฐแห่งนี้รู้สึกประทับใจและพึงพอใจในคุณสมบัติของกับความสามารถของโนมูระ ความสัมพันธ์ร่วมมือกับกลุ่มการเงินใหญ่จากญี่ปุ่นจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อกิจการของ SCIC
บรรษัทเงินลงทุนแห่งรัฐ นับเป็นสถาบันลงทุนที่ใหญ่มากในเวียดนาม เป็นตัวแทนของรัฐบาลในการถือหุ้นใหญ่ในรัฐวิสาหกิจต่างๆ กว่า 1,000 แห่ง มีมูลค่าในตลาดกว่า 2,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
รัฐบาลเวียดนามโดย SCIC กำลังดำเนินการ เพื่อนำธนาคารขนาดใหญ่จำนวน 4 แห่ง รัฐวิสาหกิจใหญ่น้อยอีกราว 100 แห่ง รวมทั้งบริษัทธุรกิจกึ่งเอกชนที่ SCIC ร่วมถือหุ้นอยู่อีกกว่า 100 แห่ง เข้าจดทะเบียนในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ในปีนี้
ตามข้อมูลของกระทรวงการคลัง ปัจจุบันยังมีกลุ่มบริษัทเอกชนอีกราว 20 กลุ่ม รวมทั้งกลุ่มโทรคมนาคมและสื่อสาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มก่อสร้าง และ กลุ่มพลังงาน กำลังเตรียมการเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นในปีนี้เช่นเดียวกัน
ทางการเวียดนามกล่าวว่าจากที่มีบริษัทจดทะเบียนยังไม่ถึง 200 บริษัทในขณะนี้ คาดว่าตลาดหุ้นเวียดนามจะมีสมาชิกใหม่อีกราว 200 บริษัทในปีนี้ ซึ่งจะทำให้มูลค่าของตลาดเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 90 ล้านล้านด่ง หรือ ประมาณ 5,625 ล้านดอลลาร์.
 
                    

