ยักษ์ยางพาราไทยฮั้วฯ ควงบริษัทยักษ์จีนบุกลาว

ผู้จัดการรายวัน--- - บริษัทไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) จากประเทศไทย และบริษัทนิวจิบเซ้งโฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทใน สปป.ลาว ได้ตกลงขยายความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตยางพาราขนาดใหญ่อันดับ 2 จากสาธารณรัฐประชานจีนขยายการปลูกยางพาราในลาวออกไปเป็น 6 แขวง รวมเป็นเนื้อที่ราว 30,000 เฮกตาร์ หรือ กว่า 187,000 ไร่

นับเป็นความร่วมมือด้านยางพาราที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนี้

ตามรายงานของสื่อทางการลาว บริษัทลาว-ไทยฮั้ว ยางพารา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนสัญชาติลาวที่จัดตั้งขึ้นใหม่ กำลังจะเปิดให้ บริษัทเจียงซันกรู๊ป จากจีนเข้าถือหุ้น 20% เพื่อร่วมในโครงการผลิตยางพาราในลาว โดยผลผลิตส่วนใหญ่จะส่งจำหน่ายให้แก่บริษัทจีนแห่งนี้

พิธีลงนามในบันทึกช่วยความจำเพื่อความเข้าใจระหว่าง 3 ฝ่าย ไทย-ลาวและจีน จัดขึ้นในวันจันทร์ (26 มี.ค.) ที่ผ่านมา ณ โรงแรมดอนจันทน์พาเลซ ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่

นายสะเหมอ จุนละมะนี ผู้อำนวยการบริษัทลาว-ไทยฮั้วยางพารา กล่าวว่า โครงการนี้จะสร้างงานให้กับเกษตรกรลาวจำนวนมาก และจะนำรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรหรือผู้ออกแรงงานที่เข้าร่วมในโครงการนนี้ มีหลักประกันที่จะมีรายได้ 1,000 ดอลลาร์ต่อคนต่อปี

ผู้บริหารของไทยฮั้วฯ กล่าวในเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ว่าจะร่วมกับนิวจิบเซ้ง เตรียมก่อตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราในเขตเมืองอุทุมพอน แขวงสะหวันนะเขต ขณะที่การทำไร่ยางพาราจะเริ่มดำเนินการในทันที

บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในลาว จะลงทุนปลูกยางเองในเนื้อที่ 6,250 ไร่ ขณะที่จะลงทุนในการบุกเบิก และปลูกในเนื้อที่อีก 10,000 ไร่เศษ และ จัดสรรมอบให้ครอบครัวเกษตรกรลาวในท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลรักษาตลอดระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี และ สามารถขอต่ออายุสัมปทานได้

บริษัทลาว-ไทยฮั้วฯ ประกาศเมื่อในจันทร์ (26 มี.ค.) ที่ผ่านมา จะขยายพื้นที่ปลูกยางจากเดิม 5 แขวงและนครคือ แขวงเวียงจันทน์ นครหลวงเวียงจันทน์ บอลิคำไซ ในภาคเหนือ สะหวันนะเขต กับแขวงคำม่วน ในภาคใต้ ขยายไปสู่แขวงไซยะบูลี ในภาคเหนืออีก 1 แขวง

การปลูกยางพาราแบบปูพรมนี้ จะเริ่มในเดือน มิ.ย. 2550 นี้เป็นต้นไป ให้แล้วเสร็จภายในปี 2552เวียงจันทน์ใหม่กล่าว

บริษัทลาว-ไทยฮั้วฯ จะส่งเสริมเกษตรกรลาว ด้วยการให้สินเชื่อ ต้นกล้า และอื่นๆ รวมทั้งการสนับสนุนทางด้านวิชาการ แล้วลงนามในข้อตกลงเก็บซื้อผลผลิต โดยจะดำเนินการในลักษณะนี้ให้ได้ในพื้นที่ 93,750 ไร่ (15,000 เฮกตาร์)

นอกจากนั้นยังมีพื้นที่อีก 93,750 ไร่ เป็นการขอสัมปทานจากรัฐเพื่อปลูกยางพาราโดยบริษัทเอง ในแผนการลงทุนรวมเป็นมูลค่า 34.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

บริษัทไทยฮั้วยางพาราฯ ก่อตั้งในปี 2528 โดย มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ และ มีแหล่งการผลิตในเครือบริษัทอีก 10 แห่ง ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น หาดใหญ่ กระบี่ ระยอง ตรัง เป็นต้น รวมทั้งสำนักงานสาขาในต่างประเทศอีกแห่งหนึ่งที่นครเซี่ยงไฮ้

ความต้องการยางพาราในตลาดระหว่างประเทศยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีมานี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดใหญ่อย่างจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ และจากการที่ประเทศไทย อินโดนีเซียกับมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่สามารถผลิตยางพาราได้น้อยลงเนื่องจากผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ

รัฐบาลลาวกำลังส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนด้านการเกษตรเพื่อการส่งออก เพื่อให้เกิดการจ้างงานในประเทศ สอดคล้องกับโครงการขจัดความยากจนของประชาชนในประเทศ อันเป็นนโยบายสำคัญเฉพาะหน้าของทางการ

นอกจากบริษัทจากประเทศไทยแล้ว ปัจจุบันยังมีบริษัทอุตสาหกรรมการเกษตรจากเวียดนาม จีน และรายอื่นๆ จากประเทศไทย เข้าไปหาแหล่งทำสวนยางพาราในลาว เพื่อผลิตยางป้อนตลาดโลก และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการส่งออก

ไม่พียงแต่ยางพาราเท่านั้น บริษัทต่างชาติยังเข้าไปลงทุนใช้ที่ดินในลาวปลูกพืชเศรษฐกิจอีกหลายชนิด โดยมีเป้าหมายเพื่อแปรรูป-ส่งออก

ตามรายงานของ สื่อทางการเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทดั๊กลักรับเบอร์ (Daklak Rubber Co) จาก จ.ดั๊กลัก ของเวียดนาม ได้รับอนุญาตให้เข้าปลูกยางพารา กาแฟ โกโก้ และ มะม่วงหิมะพาน ในเนื้อที่กว่า 10,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 62,500 ไร่) ในแขวงสาละวันและจำปาสัก ในภาคใต้ของลาว มูลค่าการลงทุน 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในช่วงปี 2548-2549 บริษัทจากเวียดนามแห่งเดียวกันนี้ ได้เคยลงทุนไปแล้ว 6.25 ล้านดอลลาร์ปลูกยางพาราในเนื้อที่ 20,000 ไร่ และปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ในเนื้อที่อีกราว 25,000 ไร่ใน 2 แขวงดังกล่าว.