xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามยกฐานะตลาดหลักทรัพย์รับมือดัชนีร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#0066ff> ที่นี่มีนักลงทุนเพิ่มจำนวนวันละ 200-300 ราย ห้องค้าปัจจุบันรับไม่ไหวแล้ว </FONT> </CENTER>

กรุงเทพฯ-- เจ้าหน้าที่ตลาดหุ้นเวียดนามเปิดเผยว่า กำลังมีการเตรียมการยกระดับตลาดทุนของประเทศ ให้เป็นตลาดหลักทรัพย์อย่างสมบูรณ์และเต็มภาคภูมิ มีความทันสมัยเทียบเทียมกับต่างประเทศ จากในปัจจุบันที่มีฐานะเป็นเพียงศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์เท่านั้น

การปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดหุ้นที่ได้ชื่อว่าเติบโตเร็วที่สุดในโลก ในขณะที่การซื้อขายกำลังร้อนแรงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

นายฝ่ามจ่องบิ่ง (Pham Trong Binh) หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของคณะกรรมการหลักทรัพย์แห่งรัฐ หรือ SSC (State Securities Commission) เปิดเผยว่าการยกฐานะของตลาดทุน จะมีขึ้นพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงกระบวนการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ซึ่งจะเริ่มในเร็วๆนี้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการถ่ายโอน และ การเปลี่ยนเจ้าของหลักทรัพย์ในแต่ละวัน ทั้งหมดจะได้รับการปรับปรุงให้ได้มาตรฐานเดียวกันกับในตลาดภูมิภาค

ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่มีความเป็นไปได้ว่า ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์โฮจิมินห์จะกลายเป็นตลบาดหลักทรัพย์ใหญ่เพียงแห่งเดียวของประเทศ

ส่วนศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงฮานอย ซึ่งยังคงเป็นตลาดแบบ OTC จะได้รับการยกระดับขึ้นเท่าเทียมกัน ในขณะที่รัฐบาลมีนโยบายจะปรับเปลี่ยนศูนย์ซื้อขายฯ กรุงฮานอยให้เป็นตลาดซื้อขายพันธบัตรเพียงอย่างเดียว

ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม (VN-Index) ของศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ "ตลาดหุ้น" นครโฮจิมินห์ ปิดต่ำลง 44.06 จุด หรือ -3.8% เมื่อวันพุธ (14 มี.ค.) นี้ ไปปิดลงที่ 1114.21 ซึ่งเป็นการดิ่งหัวลงวันที่สองติดต่อกัน ตามกระแสของตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่ได้รับอิทธิพลจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ดัชนีของตลาดหุ้นใหญ่ทั่วเอเชียปิดต่ำลง 2-3%

แต่ผู้บริหารของตลาดไม่ได้แสดงความวิตกกังวลใดๆ ในวันเดียวกันนี้คณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ SSC (State Securities Commission) ได้ประกาศปรับมาตรฐานการซื้อขาย เตรียมรับมือการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโบรกเกอร์หลายแห่งก็ได้ทำการขยายฟลอร์ซื้อขาย เพื่อให้สามารถรองรับนักลงทุนได้มากขึ้น

โบรกเกอร์รายหนึ่งกล่าวว่าในแต่ละวันจะมีนักลงทุนหน้าใหม่ 200-300 คนไปร่วมการซื้อขายหุ้นที่ตลาดโฮจิมินห์ ทำให้ฟลอร์ที่คับแคบอยู่แล้วแน่นขนัดไปด้วยผู้คน

นับเป็นอีกสัปดาห์หนึ่งที่ดัชนีตลาดหุ้นนครโฮจิมินห์เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญ โดยดัชนีเองที่มีความผันผวนสูงมาก หลังจากได้พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1170 ในวันจันทร์ (12 มี.ค.) เฉียดเข้าใกล้แนวต้านใหม่ที่ 1200

เมื่อวันอังคาร VN-Index ดิ่งหัวลง หลังจากมีเสียงเตือนถี่ยิบเกี่ยวกับความร้อนแรงของตลาด ซึ่งก่อนหน้านั้นนักลงทุนไม่เคยใส่ใจมาตลอด และปิดต่ำต่อเนื่องเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันพุธ

อย่างไรก็ตามยังไม่มีวี่แววว่าดัชนีหุ้นเวียดนามจะปักหัวลงอย่างจริงจัง ที่ผ่านมามีแต่การเทขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น โดยอาศัยกระแสขาลงของตลาดในภูมิภาค ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงลงทุนระยะยาวอย่างเหนียวแน่น

ที่ผ่านมาหลายฝ่ายได้ออกเตือนนักลงทุนให้ระวังความร้อนแรงของตลาด ไม่ว่าจะเป็นเสียงเตือนจากคณะกรรมการหลักทรัพย์ฯ นักวิเคราะห์ที่เตือนผ่านสื่อของต่างประเทศ สถาบันการเงิน รวมทั้งรัฐบาลเวียดนามเอง แต่นักลงทุนพากันเอาหูทวนลม แย่งกันซื้อหุ้นเวียดนามต่อไป

ศาสตราจารย์เหวียนดั่งแยว็ง (Nguyen Dang Doanh) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเวียดนามกล่าวว่า สิ่งที่ SSC พึงกระทำก็คือ สอดส่องดูแลการใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trade) เพราะเรื่องอื่นไม่มีปัญหา การไหลบ่าของเงินทุนจากต่างประเทศก็ไม่มีอะไรน่ากลัว ตราบเท่าที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงปักหลักลงทุนในระยะยาว

ดร.แยว็งกล่าวว่า ดัชนีหุ้นเวียดนามวิ่งเร็วๆ ไม่หยุด ตั้งแต่เปิดซื้อขายหลังเทศกาลตรุษ ตลาดยังมีศักยภาพสูงมากที่จะเติบโตต่อไป ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการปรับตัวในการซื้อขายโดยอัตโนมัติ นั่นก็คือ จะมีอุปทานเพียงพอต่ออุปสงค์ จึงไม่มีอะไรที่น่าวิตก

บริษัทจดทะเบียนที่เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นล้วนมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ผู้ถือหุ้นได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ไดเกื้อกูลการขยายตัวของดัชนี ซึ่งเชื่อว่ายังจะพุ่งด้วยความเร็วต่อไปอีกตลอดปี 2550 นี้

นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ยังชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่เรียกว่า "แบล็กทิวสเดย์" ที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นเดซี่ยงไฮ้ในปลายเดือน ก.พ. ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นเวียดนามในระยะสั้นๆ เท่านั้น และ ไม่ได้มีผลอะไรมากมายนอกจาก ผลกระทบทางจิตวิทยาต่อนักลงทุน

ปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทางการจะต้องกำกับดูแลการมใช้ข้อมูลภายในซื้อขายอย่างใกล้ชิด ะต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาด โบรกเกอร์หรือผู้ค้ารายใดที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบในเรื่องนี้ เพื่อทำให้ทุกอย่างโปร่งใสตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี

ตามรายงานของสำนักข่าววีเอ็นเอของทางการเวียดนาม ในช่วงสัปดาห์ใกล้ๆ นี้ห้องค้าของโบรกเกอร์ต่างๆ เต็มไปด้วยนักลงทุนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน หลายแห่งจึงต้องขยายฟลอร์ซื้อขาย เช่นเดียวกันการปรับกฎเกณฑ์ใหม่ในการซื้อขาย เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อทุกฝ่าย

ความแออัดยังแสดงออกทางระบบออนไลน์ที่นับวัน ช้าลงเนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความไม่สะดวกไปทั่ว ฝ่ายบริหารของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์กล่าวว่าปัญหานี้จะแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ก็จนกระทั่งถึงปีหน้า.
กำลังโหลดความคิดเห็น