ทนายความของอดีตซูเปอร์สตาร์เพลงร็อค แกรี่ กลิตเตอร์ (Gary Glitter) เชื่อว่า เขาน่าจะมีคุณสมบัติเข้าข่ายได้รับอภัยโทษจากทางการเวียดนาม เนื่องในโอกาสเทศกาลขึ้นปีใหม่ประเพณีนิคม ในเดือนหน้านี้
นายเลแท็งกิ๋ง (Le Thanh Kinh) ทนายความกล่าวว่า นายกลิตเตอร์มีความประพฤติดีมาตลอดตั้งแต่ถูกคุมขังในเดือน มี.ค.2549
ร็อคชราถูกศาลนครโฮจิมินห์ ตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี ฐานทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงเวียดนาม 2 คน ที่เมืองหวุงเต่า (Vung Tao) ใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
ในช่วงทศวรรษที่ 1970 กลิตเตอร์เป็นนักร้องเพลงร็อคและเพลงป๊อปที่มีชื่อเสียงมากในประเทศอังกฤษ ชื่อจริงคือ พอล ฟรานซิน แกดด์ (Paul Francis Gadd) ปัจจุบันอายุ 62 ปี
นายแท็งกิ๋งกล่าวว่า ลูกความของเขาได้จ่ายค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายในคดีดังกล่าวนี้แล้ว และได้ยังถูกคุมขังมาครบ 1 ใน 3 ของโทษทัณฑ์แล้ว หากนับรวมกับช่วงที่เขาถูกจำคุกระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีคุณสมบัติเข้าข่ายจะได้รับอภัยโทษ
เขาถูกจับในเดือน มี.ค. 2549 โดยมีผู้พบเห็นอยู่กับเด็กหญิงอายุ 11 และ 12 ปีในบ้านเช่าที่เมืองหวุงเต่า ในสภาพที่เปล่าเปลือยทั้งตัว
ชื่อเสียงกับอนาคตของเขาดับวูบลงในปี 2542 เมื่อตำรวจตรวจค้นบ้านพักในกรุงลอนดอน และพบภาพโป๊กับภาพลามกของเด็กๆ กว่า 4,000 ภาพในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขา จึงถูกตัดสินจำคุกในข้อหามีภาพอันไม่เหมาะสมของเยาวชนไว้ในครอบครอง
สื่อในอังกฤษรายงานว่า ความลับเรื่องนี้แตกตอนที่กลิตเตอร์เผอเรอนำเอาคอมพิวเตอร์ไปซ่อมที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่ง
กลิตเตอร์ถูกจำคุกในอังกฤษเพียง 4 เดือนก็ถูกปล่อยตัว จากนั้นเขาหลบไปอยู่ในคิวบา ก่อนจะเดินทางเข้ากัมพูชา และไปยุ่งกับเด็กๆ ที่นั่นอีก ในที่สุดก็ถูกรัฐบาลกัมพูชาเนรเทศในฐานะ "บุคคลที่ไม่พึงประสงค์"
ยังไม่มีรายละเอียดว่ากลิตเตอร์แอบเดินทางเข้าเวียดนามตั้งแต่เมื่อไร จนกระทั่งนักข่าวหนังสือพิมพ์อังกฤษตามไปพบโดยบังเอิญ และไปเจอเรื่องอื้อฉาวครั้งล่าสุด เขาพยายามหลบหนี แต่ถูกรวบตัวที่ท่าอากาศยานเติ่นเซินเญิต นครโฮจิมินห์ขณะรอเที่ยวบินบริษัทการบินไทย เตรียมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
กลิตเตอร์ได้ตกลงจ่ายเงินค่าเสียหายให้แก่ครอบครัวของเด็กคู่กรณีแต่ละคน ครอบครัวละ 2,000 ดอลลาร์ แต่ก็ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้ล่วงละเมิดอะไรเด็กๆ
ร็อคชราตัณหากลับรอดพ้นจากการตั้งข้อกล่าวหา ข่มขืนเด็กฃำเราซึ่งหากถูกศาลตัดสินว่าได้กระทำผิดจริงก็อาจจะถูกลงโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต
เขาเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีชื่อในบัญชีดำของตำรวจสากล ฐานเป็นบุคคลที่มีอันตรายมากต่อเยาวชน
เมื่อต้นปีที่แล้วทางการเวียดนามได้ดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรียคนหนึ่งฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายในเวียดนามหลายคน ก่อนจะส่งตัวให้แก่ทางการประเทศออสเตรียเพื่อนำกลับไปดำเนินคดีในประเทศบ้านเกิด
ชาวออสเตรียคนนี้มีคดีเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศติดตัวอยู่หลายคดีในประเทศออสเตรีย และมีชื่อในบัญชีดำของตำรวจสากลเช่นเดียวกัน เขาถูกจับได้ด้วยความร่วมมือระหว่างตำรวจเวียดนามกับตำรวจสากล.