xs
xsm
sm
md
lg

กรุ่นกลิ่น 'ชาดอกบัว' ภูมิปัญญาเวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



คุณคงเคยได้สัมผัสกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ละมุนละไมของดอกบัวกันมาบ้างแล้ว ดอกไม้ชนิดนี้ถูกยอมรับนับถือว่าเป็นแก่นแท้ของความบริสุทธิ์ผุดผ่องแห่งสรวงสวรรค์และโลกมนุษย์ แต่ใครหละจะเชื่อว่าเจ้าดอกไม้ชนิดนี้จะสามารถนำมาผสมผสานให้กลายเป็นชารสนุ่ม ด้วยภูมิปัญญาของชาวเวียดนามให้คนทั่วไปได้ลิ้มลองกัน

ชากลิ่นดอกบัวเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษที่สงวนไว้เพียงเพื่อสมาชิกในครอบครัวพระมหากษัตริย์ ขุนนางชั้นสูง และมั่งคั่งเท่านั้น

จากงานเขียนชิ้นหนึ่งของแพทย์และนักวิชาการชาวเวียดนามผู้มีชื่อเสียงในช่วงคริสศตวรรษที่ 18 ท่านหนึ่งได้บรรยายการปลูกดอกบัวไว้ว่า

"ปลูกมัน (กอบัว) ลงในดินโคลน เพราะดอกบัวไม่เคยสะทกสะท้านกับกลิ่นตุๆ จากโคลนเหล่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่ามันได้ช่วยซึมซับความบรสุทธิ์สดชื่นของอากาศจากธรรมชาติทำให้ลำต้น ดอก และใบอัดแน่นไปด้วยสรรพคุณทางยาสมุนไพร"

นางโหงะถิจิ่ง (Ngo Thi Trinh) หญิงเจ้าผู้เป็นเจ้าของร้านขายชากลิ่นดอกบัวเลื่องชื่อนามว่า "นิงเฮือง" (Ninh Huong) ในกรุงฮานอย อันเป็นที่รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดีของคอชาชาวเวียดนาม และต่างประเทศ

นางจิ่งมีความชำนิชำนาญในขั้นตอนการทำชากลิ่นดอกบัวเป็นอย่างดี มีทักษะที่หาใครทัดเทียมได้ยาก โดยปกติใบชาแห้งปริมาณ 1 กก.จะต้องใช้กลิ่นจากเกสรดอกบัวจำนวน 1.4 กก.โดยคัดสรรเอาจากดอกบัวประมาณ 1,400 ดอก ดอกบัวบัวสดๆ ต้องนำมาเก็บรักษาไว้ให้ถูกต้องภายหลังจากที่ถูกตัดดอกออกมาจากสระเพื่อเก็บรักษากลิ่นหอมๆ จากเกสรไว้ให้ได้นานที่สุด

จากนั้นก็จะนำใบชาแห้งมาจัดวางไว้เป็นชั้นๆ อัดแน่นอยู่ภายในโอ่งกระเบื้องเคลือบขนาดใหญ่สีดำโดยมีเกสรดอกบัววางคั่นระหว่างแต่ละชั้นของใบชาและเก็บไว้นาน 2 วัน จากนั้นจึงนำออกมาตากแห้งอีก 1 วัน

ขั้นตอนต่อมาก็จะเป็นการแยกเกสรดอกบัวออกจากใบชาโดยใช้กระแกรงร่อน และนำเกสรสดชุดใหม่มาทำแบบเดิมทำซ้ำไปทั้งหมด 8 ครั้งจึงจะได้ใบชาที่ดูดความหอมของดอกบัว จนซึมซับไปอยู่ในทุกอณูของใบชา

ส่วนวิธีการชงชาดอกบัวให้มีความสุขก็ถือเป็นศาสตร์ทางศิลปะอย่างหนึ่งเช่นกัน นายเจื่องซวน (Truong Xuan) ศิลปินผู้เชี่ยวชาญการชงชา บรรยายว่า การดื่มชาเป็นปรกติวิสัยที่เขาเลือกใช้เมื่อต้องการเรียกความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้แก่ตัวเอง

กาชงชาสีทองถูกนำไปตั้งให้ร้อนบนเตาไฟ และเพื่อให้สามารถเก็บความร้อนไว้ได้นาน ถ้วยชากระเบื้องเคลือบสีดำถึงถูกตั้งเตรียมไว้รอท่าแล้ว นายเจื่องชอบที่จะใช้ถ้วยชาที่ด้านในเป็นสีขาวหรือสีชมพูมากกว่าเพื่อต้องการเน้นสีเหลืองอำพันของน้ำชาให้โดดเด่นมากขึ้น

ก่อนที่จะผสมน้ำและใบชาเข้าด้วยกันนั้น ทั้งกาน้ำชา และถ้วยต้องผ่านการลวกด้วยน้ำร้อน หลังจากนั้นจึงเติมน้ำร้อนและใบชาลงไป ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ก่อนรินใส่ถ้วยพร้อมดื่ม

นอกจากนี้นายเจื่องยังเผยเคล็ดลับอีกว่า ถ้วยแรกมักไม่ใช่ชาที่รสดีที่สุด แต่ต้องเป็นถ้วยที่สอง ที่สาม... เพราะรสชาติอันหอมหวานของใบชาจะยิ่งแผ่ซ่านออกมาให้ผู้ดื่มได้สัมผัสมากขึ้นๆ ดังนั้นขึ้นชื่อว่าเป็น "ยอดชา" จึงต้องสามารถชงดื่มได้หลายครั้งก่อนที่จะค่อยๆ เจือจางลงไปในที่สุด

ว่ากันว่า...การได้นั่งจิบชาดอกบัวจะช่วยคลายร้อน และความเหนื่อยล้าจากแสงแดดที่แผดเผาในช่วงฤดูร้อนได้อย่างดีเยี่ยม คืนความชุ่มฉ่ำสดชื่นให้ผู้ดื่มได้ชะงัดนัก ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราจริงๆ ถ้าใครมีโอกาสลองหามาดื่มบ้างก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว

** เรียบเรียงจากเรื่อง The Lotus Scented Tea and how Best to Enjoy it เวปไซต์ VNP **
กำลังโหลดความคิดเห็น