กรุงเทพฯ- อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายบิล คลินตัน (Bill Clinton) ไปเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันจันทร์ (4 ธ.ค.) และ ได้ดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งอุ้มทารก และโอบกอดทารกไว้แนบอก ซึ่งเป็นภาพประทับใจสำหรับชาวกัมพูชา
นายคลินตัน ซึ่งเดินทางถึงเมืองหลวงของกัมพูชาในวันเดียวกันได้ไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแมรี่ นอลล์ แคมโบเดีย (Mary Knoll Cambodia) ซึ่งเป็นของหน่วยงานคาทอลิกแห่งหนึ่ง อดีต ปธน. สหรัฐฯ ได้มอบเวชภัณฑ์ต่อต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีเอดส์จำนวนหนึ่งสำหรับการดูแลเด็กๆ และทารกกว่า 300 คนที่อยู่ในศูนย์แห่งนั้นด้วย
นายคลินตัน กำลังตระเวนเยือนหลายประเทศในภารกิจต่อต้านการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ภายใต้การดำเนินการของมูลนิธิบิล คลินตัน
อดีตผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในกรุงพนมเปญว่า กัมพูชาควรจะดำเนินมาตรการสองด้านไปพร้อมๆ กัน อันได้แก่การให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับโรคนี้และการส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยในหมู่ประชากรในวัยเจริญพันธุ์
"มีความหวังอยู่ว่ากัมพูชาจะเป็นแบบอย่างสำหรับทั้งภูมิภาคหรืออาจจะเป็นแบบอย่างของทั้งโลก" ในการต่อต้านการแพร่ระบาดและให้ความช่วยเหลืออแก่ประชาชนที่เคราะห์ร้าย นายคลินตันกล่าวภายหลังจากพิธีลงนามร่วมกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายฮุนเซน เพื่อให้ความช่วยเหลือในภารกิจต่อต้านโรคเอดส์
กัมพูชาซึ่งเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดอีกประเทศหนึ่ง มีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเอชไอวีสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าอัตราการติดเชื้อในหมู่ผู้เยาว์จะลดลงเหลือประมาณ 1.9% ในปี 2547 จาก 3.3% ในปี 2541 ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
"ท่านนายกฯ ได้สร้างความคืบหน้ามากมายในการลดอัตรการติดเชื้อของที่นี่ที่พุ่งขึ้นสู่ระดับที่สูงที่สุดในโลก" นายคลินตันกล่าว แต่ก็ย้ำว่าในปัจจุบันสิ่งนี้ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่หลวง
ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขว่า มูลนิธิบิล คลินตัน ให้ความช่วยเหลือแก่กัมพูชาเป็นเงินเท่าไร หรือ ประกอบด้วยอุปกรณ์อะไรบ้าง แต่นายนุธ สุขุม (Nuth Sokhom) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าในนั้นมีเครื่องมือทดสอบการติดเชื้อสำหรับศูนย์บริการและห้องทดลองทั้ง 4 แห่ง
การไปเยี่ยมศูนย์เลี้ยงเด็กกำพร้า แมรี่ นอลล์ นั้น เป็นส่วนหนึ่งในโครงการรณรงค์ต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อผู้ป่วยด้วยโรคเอดส์ ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของมูลนิธิฯ
ส่วนนายฮุนเซน ได้แสดงความหวังว่า การเยือนของนายคลินตันจะเป็นการส่งสัญญาณถึงประชากรชาวกัมพูชา 13 ล้านคน ให้ต้องเพิ่มความระวังในการป้องกันโรคเอดส์ และตระหนักถึงการรณรงค์ของรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ชาวกัมพูชามีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
ตามรายงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในกัมพูชามีการจำหน่ายถุงยางคุมกำเนิดปีละกว่า 2 ล้านชิ้น
"การมาเยืนของท่านเป็นการส่งสาส์นถึงเยาวชนกัมพูชาเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ขยายของโรคเอดส์ เช่นเดียวกันกับการยุติการเลอืกปฏิบัติต่อผู้ป่วยด้วยโรคร้ายที่ยังมีชีวิตอยู่"น ายฮุนเซนกล่าว.
